[ประชาสัมพันธ์] เก็บตก J Series Festival อีกหนึ่งสุดยอดงานเพื่อสาวก J Culture

เก็บตกกับอีกกิจกรรมภายในงาน Japan Weekend กิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อบันเทิงประเภทละครและบทเพลงของประเทศญี่ปุ่นจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างๆ ซึ่งก็ได้จัดกันไปในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง รอบนี้เรามาดูเก็บตกต่างๆภายในงานย่อยที่น่าสนใจอย่าง J Series Festival ที่จัดออกมาเพื่อเอาใจสาวก J Series กันเลยดีกว่า

โดยเกริ่นกันก่อนเกี่ยวกับงาน J Series Festival 2014ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 แล้วสำหรับงานนี้ในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อโปรโมทซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องเยี่ยมที่พร้อมนำเสนอแก่สายตาผู้ชมชาวไทยในปี 2558 ทั้งสิ้น 13 เรื่องอันประกอบไปด้วย Gunshi Kanbei, ฮานาโกะกับแอนนา, Midnight Bakery, คินดัอิจิกับคดี ฆาตกรรมปริศนา (Neo), ST Aka to Shirou no Sousa File, Doctor-X ~Gekai Daimon Michoko~, Aibou Season 13, RIVER’S EDGE INVESTIGATIVE AGENCY OKAWABATA, LAST DOCTOR ~Necropsy Repory of Medical Examiner Akita~, Nobunaga Concerto, Dear Sister, NAOKI HANZAWA, REGRET FROM MY SCHOOL DAYS นั้นเอง โดยภายในงานยังมีการชูโรงอย่างกิจกรรมจากศิลปินและนักร้องสุดฮิตจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ทักกี้ – ฮิเดะอากิ ทากิซาว่า (Hideaki Takizawa) ศิลปินชื่อดังอดีตสมาชิคจอห์นนี่ส์จูเนียร์ (Johnny’s Jr) และดาราสาวสวยอย่าง ฮารุนะ คาวากุชิ ๖Haruna Kawaguchi) มาร่วมงาน และศิลปินไอดอลสาววง Idol Renaissance ปิดท้ายด้วย Bless 4 ซึ่งก็ได้ไปแสดงที่งาน J POP Signature ด้วยนั้นเอง

Karu Cul Vocaloid ที่มากล่าวเปิดงาน

มาถึงส่วนภายในตัวงานกันดีกว่า โดยตัวงานนั้นได้จัดที่โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย รอยัล แกรนด์ เธียเตอร์ ชั้น 6 ศุนย์การค้า สยามพารากอน เมื่อวันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2557 ในเวลา 15.00 น. ยาวไปจนถึง 17.00 น.เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปิดงานนั้นภายในงาน J Series Festival ก็ได้เริ่มต้นด้วยการนำเสนอ Vocaloid Hologram ซึ่งมีชื่อว่า คารุ ออกมาพูดเป็นภาษาไทย (ซึ่งทางทีมงานขอยอมรับเลยว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ยิน Vocaloid พูดภาษาไทยชัดขนาดนี้) เพื่อกล่าวเปิดงานพร้อมกับนำเสนอ TV Series ทั้ง 13 เรื่องให้ผู้ชมภายในงานได้ดูตัวอย่างกัน ตามลำดับ ดังนี้

เรื่องที่ 1 Hanzawa Naoki (จอมอหังการ ฮันซาวะ นาโอกิ)

ฮันซาวะ นาโอกิ ตัดสินใจมาเป็นพนักงานธนาคารโดยมีจุดมุ่งหมายบางอย่างในใจ ปัจจุบันเขาเป็นหัวหน้าแผนกสินเชื่อที่ธนาคารโตเกียวจูโอสาขาโอซากานิชิ   วันหนึ่งเขาถูก อาซาโนะ ผู้จัดการสาขาที่อยากได้ผลงาน บีบให้เขาต้องปล่อยสินเชื่อ 500 ล้านเยนให้กับ นิชิโอซากาสตีล โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน   ภายนอก นิชิโอซากาสตีล เป็นบริษัทชั้นนำที่มีความมั่นคงมาก แต่ที่จริงแล้วประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก และมีการตกแต่งบัญชีเพื่อซ่อนความจริงเรื่องนี้…

สามเดือนหลังจากการปล่อยสินเชื่อ นิชิโอซากาสตึลก็ได้ล้มละลายลง  ทำให้ธนาคารขาดทุน 500 ล้าน ผู้จัดการอาซาโนะได้โยนความรับผิดชอบทั้งหมดไปให้ฮันซาวะ จนทำให้เขาถูกเรียกตัวไปไต่สวนที่สำนักงานใหญ่ โตเกียว  ฮันซาวะปฏิเสธที่จะต้องรับผิดคนเดียว และเขาได้ประกาศกลางห้องไต่สวนว่า เขาจะนำ 500 ล้านเยนกลับมาให้ธนาคารให้ได้  นี่จึงเป็นทางรอดเดียวที่จะให้เขาได้อยู่ในวงการธนาคารต่อไป…

เรื่องที่ 2 คินดัอิจิกับคดี ฆาตกรรมปริศนา (Neo)

คินดะอิจิ ฮาจิเมะ(ยามาดะ เรียวสุเกะ) หลานชายของยอดนักสืบ คินดะอิจิ โคสุเกะ เด็กหนุ่มม.ปลายที่แม้ยามปกติจะเหลาะแหละแต่ยามคับขันจะฉายแววอัจฉริยะในการวิเคราะห์เหตุการณ์ออกมา อยู่มาวันหนึ่ง มิยูกิ(คาวางุจิ ฮารุนะ) เพื่อนตั้งแต่เด็กๆถูกประธานชมรมวิจัยภาพยนตร์ คุราซาวะ ฮิคารุ(คามิกิ ริวโนสุเกะ)ทาบทามให้มาเป็นนางเอกในหนังเรื่องใหม่ ทว่าในการถ่ายทำวันแรกกลับพบศพของสมาชิกชมรมถูกแขวนด้วยฟิลม์หนังจำนวนมาก…

แท้จริงแล้วชมรมวิจัยภาพยนตร์มีข่าวลืออันน่าสะพรึงกลัวเกี่ยวกับหนังที่ชื่อว่า “โศกนาฏกรรมแห่งราศีพิจิก”อยู่….

เรื่องที่ 3 ST MPD Scientific Investigation Squad

อยู่ๆศพจากคดีฆาตกรรมก็เคลื่อนไหวราวกับซอมบี้แล้วตายลง อากากิ ซามอน(ฟุจิวาระ ทัตสึยะ) ได้นำหน่วยสืบสวนพิเศษซึ่งรวบรวมผู้เชี่ยวชาญพิเศษแต่เต็มไปด้วยคนเพี้ยนประจำสำนักนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีชื่อเล่นว่า “ST”ซึ่งนำโดยยูริเนะ โทโมฮิสะ(โอคาดะ มาซากิ)ที่แม้จะโดนโดดเดี่ยวจากตำรวจนครบาลก็เริ่มลงมือสืบสวนอย่างเป็นเอกเทศ
และได้ค้นพบว่าเหยื่อที่ถูกตามล่าคือนางแบบยางามิ อากิโกะ(คาโต้ นัตสึกิ) ยิ่งสืบสวนก็พบว่าอากิโกะก็ยิ่งน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น ทว่าอากากิคาดการณ์ว่าเป็นสิ่งที่คนร้ายตัวจริงต้องการคือ…

เรื่องที่ 4 Hanako and Anne

ชีวประวัติที่ต้องฟันฝ่ามรสุมกว่าค่อนชีวิตของมุราโอกะ ฮานาโกะ นักแปลภาษาอังกฤษและนักเขียนวรรณกรรมสำหรับเด็กผู้มอบความหวังและความฝันให้กับนักอ่านทั่วประเทศญี่ปุ่น ฮานาโกะ ผู้เติบโตมาจากครอบครัวเกษตรกรที่ยากจนในต่างจังหวัดนั้นรักการอ่านและเป็นสาวน้อยที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการ หลังจากที่คุณพ่อช่วยส่งเสียให้ฮานาโกะได้เข้าเรียนในโรงเรียนสตรีในโตเกียวและได้เรียนภาษาอังกฤษ เมื่อเลิกอาชีพอาจารย์ที่บ้านเกิดและกลับมาที่โตเกียวอีกครั้งต้องฝ่าฟันทั้งภัยธรรมชาติและภัยสงครามได้ก้าวเดินไปบนสายอาชีพนักแปล และแล้วฮานาโกะก็ได้พานพบกับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งในภายหลังได้เป็นหนังสือที่มีผู้อ่านไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในชื่อ “แอนน์ สาวน้อยจอมแก่นแห่งกรีน เกเบิลล์ ”

เรื่องที่ 5 Nobunaga Concerto

โอดะ โนบุนางะที่ไม่ว่าใครก็รู้จักแท้จริงแล้วเป็น “เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ข้ามเวลาไป” จากโครงเรื่องแปลกใหม่ที่ว่ามานี้เหล่าขุนศึกวันเยาว์ของตระกูลโอดะ ซึ่งเป็นไดเมียวตระกูลเล็กๆได้ซาบุโร่(โอคุริ ชุน)ที่มาจากอนาคตช่วยเหลือ ก็เริ่มมุ่งสู่ความฝันอันแสนยิ่งใหญ่ “รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง” และเรื่องราวจะเล่าหนทางที่ฟันฝ่าจนฝันนั้นเป็นจริงผ่านกลุ่มเด็กหนุ่มโดยมียุคเซ็นโคคุเป็นฉากหลัง สำหรับซาบุโร่ที่เป็นคนยุคปัจจุบันที่ไม่เคยฆ่าคนมาก่อนนั้นไม่อาจเข้าใจวิถีชีวิตของขุนพลที่สามารถทิ้งชีวิตเพื่อตระกูลได้ ในขณะเดียวกันบรรดาผู้รับใช้เองก็ไม่สามารถเข้าใจการกระทำของโนบุนางะที่ซาบุโร่เป็นตัวแทนได้เช่นกัน ช่องว่าง“ระหว่างยุคสมัยที่ข้ามเวลามา”ระหว่างพวกเขาที่แตกต่างกันนั้นบางครั้งก็ทำให้คุณหัวเราะได้… ขอเชิญติดตามรับชม[ละครยุคสงครามแนวใหม่] “Nobunaga Concerto”!

เรื่องที่ 6 Gunshi Kanbei

“Gunshikanbee”เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่ฉายยาว1ปีประจำปี 2014 ของช่อง NHK ละครจะเล่าชีวประวัติของคุโรดะ คันเบ นักวางกลศึกอัจฉริยะผู้ให้ความช่วยเหลือโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บุรุษผู้รวมแผ่นดินญี่ปุ่นให้เป็นหนึ่งเดียว ผู้ความหลักแหลมเป็นอย่างยิ่งและภูมิใจที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ใครในการรวมประเทศญี่ปุ่นให้เป็นปึกแผ่น ในยุคที่เกิดสงครามแก่งแย่งภายในของเหล่าจ้าวแคว้นไปทั่วแผ่นดินญี่ปุ่นช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่16

เรื่องที่ 7 Doctor-X ~Gekai Daimon Michoko~

ไดมอน มิจิโกะ ศัลยแพทย์อิสระผู้เกลียดการรวมกลุ่ม เกลียดการการใช้อำนาจในทางไม่ชอบ เกลียดการถูกเหนี่ยวรั้งที่มีเพียงใบประกอบวิชาชีพเฉพาะทางและความสามารถอันโชกโชนเป็นอาวุธ บทศัลยแพทย์อัจฉริยะ “หัวขบถ ถือตัว มีเอกลักษณ์” นำแสดงโดยโยเนคุระ เรียวโกะกับบทพูดที่แสนขึ้นชื่อ “ฉันไม่ทำ” “ฉันทำไม่พลาด” ต่อให้เป็นการผ่าตัดที่มีโอกาสสำเร็จหรือโอกาสรอดต่ำ หรือเทคนิคที่ใช้จะไม่ได้รับการรับรอง เธอก็เข้าท้าทายโดยไม่หวาดหวั่น แม้จะมีอุปสรรคต่างๆนานาเกิดขึ้นภายในโรงพยาบาล เพื่อให้การรักษาและการผ่าตัดอันเป็นแก่นแท้ของศัลยแพทย์บรรลุล่วงจะต้องพุ่งชนไปโดยไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย ในที่สุดการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “Doctor-X”ที่ไม่อาจละสายตาไปได้แม้แต่วินาทีเดียวได้เปิดฉากขึ้นแล้ว…!

เรื่องที่ 8  Regret From My School Day (Gomen ne Seishun!)

ที่เมืองมิชิม่า จ.ชิสึโอกะมีโรงเรียนมัธยมปลายเอกชนอยู่ 3 แห่ง โรงเรียนสหศึกษา โรงเรียนมัธยมปลายซึนสึนิชิ ที่มีนักเรียนสามารถสอบเข้าม.โตเกียวได้จำนวนมากทุกปีซึ่งมีชื่อเล่นว่า “ม.ปลายนิชิ(ตะวันตก)” โรงเรียนหญิงล้วนคาทอลิกที่แสน เข้มงวด วิทยาลัยสตรีเซนต์มิชิม่า ที่มีชื่อเล่นว่า “ซังโจ” และโรงเรียนที่ตัวเอกฮาระ เฮสุเกะ(นิชิกิโดะ เรียว)เคยเรียน ซึ่งตอนนี้เขากลับมาสอนที่โรงเรียนชายล้วนพุทธ สาธิตมหาวิทยาลัยโคมางาตะโรงเรียนมัธยมปลายมิชิม่า ที่แม้จะไม่มีตัวอักษรฮิงาชิ(ตะวันออก)อยู่ แต่เพื่อแยกจากโรงเรียนม.ปลายนิชิจึงได้มีชื่อเล่นว่า “ม.ปลายทง” ด้วยค่าเฉลี่ยผลการเรียนที่ด้อยกว่าของบรรดานักเรียนม.ปลายทงแล้วทำให้บรรดานักเรียนซังโจพากันดูถูกอยู่ในใจและหลีกเลี่ยงไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย

โรงเรียนม.ปลายทงกับซังโจที่ห่างกันเพียง100เมตรก็มีข่าวลือว่าจะควบรวมโรงเรียนเพราะปัญหาอัตราการเกิดลดลงและปัญหาทางการเงินทำให้ทั้งบรรดาศิษย์เก่าและสมาคมครูและผู้ปกครองพากันคัดค้านหัวชนฝา การจะให้โรงเรียนหญิงล้วนคาทอลิกมารวมกับโรงเรียนชายล้วนพุทธมันไม่เข้าท่าเลยซักนิด ทว่าคราวนี้ผู้อำนวยการของทั้งสองโรงเรียนได้พูดคุยหารือกันแล้ว

ช่องว่างที่ทำให้ทั้งสองโรงเรียนไม่ลงรอยกัน… มีสาเหตุหนึ่งมาจากเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้แก้ไขเมื่อ 14 ปีก่อน และเฮสุเกะที่ยังคงยึดติดกับโรงเรียนเดิมจากเรื่องนั้นก็ได้ยื่นข้อเสนอที่ก้าวข้ามเส้นขนานในการควบรวมโรงเรียนขึ้นมา ซึ่งข้อเสนอนั้นคือ…!?

เรื่องที่ 9 RIVER’S EDGE INVESTIGATIVE AGENCY OKAWABATA

สำนักงานนักสืบเล็กๆซึ่งตั้งในอาคารชุดริมแม่น้ำสุมิดะ อาซาคุสะ โตเกียว ที่เหล่านักสืบมีคำขวัญว่า “หาเงินด้วยลำแข้ง” อันได้แก่ตัวเอกของเรื่อง “มุรากิ ทาเคชิ” “ผู้จัดการ”เจ้าของใบหน้าน่ากลัวมากปริศนาผู้มีประวัติทำงานในโลกมืด และ“เมงุมิ”ประชาสัมพันธ์สาวสวยผู้ร่าเริง พวกเขาทั้ง 3 คน แห่ง“สำนักงานนักสืบโอคาวาบาตะ”จะไขคดี “ว่าจ้างแปลกหน่อยๆ”จากผู้ว่าจ้างเพี้ยนๆเอง…

ท่ามกลางสภาพสังคมที่สับสนวุ่นวายที่ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของผู้คน คดีที่มาว่าจ้าง นักงานนักสืบโอคาวาบาตะ”มีแต่คดีลึกลับชวนนึกถึงตำนานเมืองทั้งนั้น… แม้ดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้แต่ก็ไม่แปลกที่จะเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน คดีต่างๆที่เกิดเหล่านั้นได้เล่า “ความโหยหาและความหวานอมขมกลืน”ที่แฝงเอาไว้

เรื่องที่ 10 Aibou Season 13

ละคร สะท้อนปัญหาสังคม“Aibou”ที่บางครั้งก็บอกเล่าความยุติธรรมที่ไม่เที่ยงตรงบางครั้งก็เป็นเรื่องตลกขบขันอันเป็นเสน่ห์ที่ทำให้แฟนๆหลงใหลในละครที่มีความหลากหลายชุดนี้ ตำรวจนครบาลฝ่ายภารกิจพิเศษ สึงิชิตะ อุเคียวแสดงโดยมิสึทานิ ยูทากะและไค โทรุแสดงโดยนาริมิยะ ฮิโรกิคราวนี้ทั้งคู่ก็ยังต้องเผชิญคดีสุดหินเหมือนเดิม คู่หูที่ไขคดีต่างๆจะโชว์ผลงานออกมาอย่างไรกัน? และแล้วละครที่แสดง “พัฒนาการ”รวมถึงเปิด “โลกทัศน์ใหม่” ได้เบิกม่านภาคใหม่พร้อมที่จะเปิดประตูบานถัดไปให้ทุกท่านได้รับชม ขอเชิญจับตามองการจับคู่ของทั้งสองคนในภารกิจสุดพิเศษนี้ให้ดี

เรื่องที่ 11 Dear Sister

ละครเลิฟคอเมดี้เคล้าความเหงาของสองศรีพี่น้องคู่กัดที่ตัดกันไม่ขาด! ด้วยฝีมือสองดาราหญิงแห่งยุค อิชิฮาร่า ซาโตมิ และมัตสึชิตะ นาโอะมารับบทนำคู่กันเป็นครั้งแรก! “เรื่องราวของพี่น้องที่ไม่เสเสร้ง”[Dear, Sister]น้องสาวผู้ทำตามใจอยากและแสนซื่อกับพี่สาวผู้จริงจังและซุ่มซ่าม ละครเลิฟคอเมดี้แสนสนุกที่สุขเศร้าเคล้าน้ำตาของพี่น้องที่ทำร้ายกันเองแต่ก็เติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปซึ่งกันและกันมาใช้ชีวิตร่วมกัน หลังจากจบมัธยมปลาย มิซากิ(อิชิฮาร่า ซาโตมิ)น้องสาวของพี่น้องฟุกาซาว่า ก็หายหน้าไปจากพี่สาวฮาสึกิ(มัตสึชิตะ นาโอะ)ไปอย่างไม่ปี่ไม่มีขลุ่ย…

อยู่มาคืนหนึ่งพอฮาสึกิกลับมาบ้านก็เจอมิซากิอยู่ในห้อง สำหรับฮาสึกิที่โดนมิซากิทำให้เหตุการณ์สำคัญในชีวิตตนพังไม่เป็นท่าหลายต่อหลายครั้งจึงโถมความโกรธใส่มิซากิที่เอาแต่ใจตนเอง ทว่ามิซากิก็เอาเหล้าโชจูของโปรดมากล่อมให้ฮาสึกิอารมณ์ดี หลังจากที่ฮาสึกิเมาหลับไปมิซากิก็ไปตรวจเช็คข้าวของรวมทั้งห้องของฮาสึกิ

มิซากิที่ตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงก็สังเกตเห็นข้อความที่ฝากไว้ของซากุราบะ โซอิจิโร่ อ.ประจำชั้นตอนม.ปลาย ทว่ามิซากิกลับโทรหาเอโตะ เพื่อนสนิทน้องชายของโซอิจิโร่ มิซากิที่ได้ฟังข้อมูลที่วานให้เอโตะช่วยหาให้ก็เริ่มดำเนินตามแผนการที่วางไว้…
ขณะเดียวกัน ฮาสึกิที่สัญญากับทัตสึยะ คนรัก ว่าจะไปพบกันในวันเกิดไม่ได้นั้นก็ไปดื่มกับเพื่อน คาสึโกะ ทว่าสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าฮาสึกิที่เพิ่งเข้าร้านนั้นคือ…

เรื่องที่ 12 LAST DOCTOR ~Necropsy Repory of Medical Examiner Akita~

งานของแพทย์ชันสูตรคือการพิสูจน์สาเหตุการตายของผู้เสียชีวิต ถึงสังคมจะยิ่งให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นทว่าพวกเรานั้นยังรู้จักแพทย์ชันสูตรไม่ดีพอ ละครจะบอกเล่าเรื่องราวของแพทย์ชันสูตรเหล่านี้ แต่ละครก็ไม่ได้ซีเรียสมาก ตัวเอก อากิตะ ชินยะ เป็นคนเพี้ยนที่สื่อสารกับคนไม่เก่งและถูกลือว่า “สนใจศพมากกว่าคนเป็น” ถึงกระนั้นด้วยมุมมองที่คนทั่วไปคาดไม่ถึงนั้นจึงสามารถคว้าความรู้สึกเฮือกสุดท้ายของผู้เสียชีวิตจากสาเหตุการตายที่ถูกซ่อนเอาไว้ออกมาได้ ขอเชิญทุกท่านรับชมละครที่ชวนให้คุณหัวเราะที่ตอนท้ายจะทำให้เสียน้ำตาหน่อยๆ กัน

เรื่องที่ 13 Midnight Bakery

ที่ชานเมืองโตเกียวมีร้านขนมปังพิศวงที่เปิดเฉพาะตอนเที่ยงคืน เจ้าของร้านผู้เปี่ยมรอยยิ้มกับ บูล็องเช่(Boulangerนักอบขนม ปังมืออาชีพ) ปากเสียแต่มากฝีมือ และเด็กสาวม.ปลายที่มีเหตุให้ต้องมาอาศัยร่วมชายคา ละครที่บอกเล่าเรื่องราวอันแสนอ่อนโยนผ่านลูกค้าที่หมุนเวียนเข้ามา เมื่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นคืนแล้วคืนเล่าได้เปิดเผยความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดและขัดแย้งของทั้ง 3 คน เรื่องเล่าที่จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับคืนทั้ง8 ที่หลังจากดูจบแต่ล่ะตอนจะทำให้คุณรู้สึกอยากกินขนมปังขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

โดยหลังจากที่จบการนำเสนอทั้ง 13 เรื่องไปนั้นในส่วนถัดไปก็จะได้เวลาที่เหล่าสาวๆจะได้มากรี๊ดกันแล้วกับดารารับเชิญอย่าง ทักกี้ และ ฮารุนะ ที่จับคู่กันมากลางเวทีเพื่อให้พิธีกรภายในงานอย่างโอปอล และ DJ อ๋อง นักแสดงและนักจัดรายการวิทยุชื่อดังนั้นเอง

โดยภายในการสัมภาษณ์นั้นก็จะมีคำถามต่างๆมากมายถามแก้ทั้งคู่ซึ่งหลายๆคำถามก็เรียกเสียงกรี๊ดไปได้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นคำถามเช่น ทั้กกี้มีบทบาทที่อยากแสดงไหม ซึ่งก็ได้คำตอบมาว่าอยากลองแสดงเป็นอาจารย์ดูซักครั้งหนึ่ง หรือฮารุนะที่อยากลองรับบทตัวร้ายเป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 คนยังกล่าวอีกด้วยว่าหากมีงานที่ไทยมาเสนอก็จะพิจารณาในการรับงานด้วยอย่างแน่นอน

 หลังจากที่มาให้แฟนๆฟินกันไปได้พักใหญ่ๆ ก็จะเข้าสู่ช่วงถัดไปที่จะพาไปนำเสนอรายการทีวีที่น่าสนใจจากในไทยกันบ้าง ซึ่งก็มีด้วยกัน 2 รายการละต้องบอกว่ามันไม่ธรรมดามากๆ มาดูกันว่าเป็นยังไง

รายการที่ 1 Moshi Moshi Japan

พบกับมุมมองใหม่ๆในประเทศญี่ปุ่น กับการเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร กับรายการพาเที่ยวที่นำโดยพี่จักร และมิกิ กับสาวๆวง Yumemiru Adolescence ที่จะพาไปพบวิธีเที่ยวญี่ปุ่นในมุมมองใหม่ แบบแปลกๆนั้นเอง

รายการที่ 2 Beauty Versus

เป็นรายการที่จะท้าประชันหน้าสดของสาวๆไทยและญี่ปุ่น ด้วยการให้เหล่าสาวๆจัดหนัก จัดเต็ม แต่งหน้า Makeup กันให้สวยสะเด็ด ก่อนที่จะนำมาแข่งขันกันในรายการด้วยการลอก Make Up เพื่อประชันหน้าสดกันเลย

หลังจากที่จบการนำเสนอส่วนต่างๆ ภายในงานแล้วก็จะถึงไฮไลท์ถัดไปอย่าง Mini Concert จากกลุ่มนักร้องในประเทศญี่ปุ่น 2 วง อย่าง Idol Renaissance และ Bless4 นั้นเอง

Idol Renaissance น่ารักมากๆ

Bless4 มาพร้อมกับเพลง Sousei no Aquarion แน่นอน

และในช่วงท้ายงานก็จะมีกิจกรรมจัดแจกรางวัลจากผู้สนับสนุนรวมไปถึงการแจกลายเซ็นนักร้องนักแสดงที่มาในงานอีกด้วย ซึ่งก็เป็นการปิดท้ายงานที่ทำเอาทั้งงานลุ้นกันเลยทีเดียว โดยคนที่ได้รับรางวัลจากผู้สนับสนุนจะได้ถ่ายภาพพร้อมกับเหล่านักร้องอีกด้วย

ก็ถือว่าเป็นอีก 1 กิจกรรมดีๆในงาน Japan Weekend ที่ผ่านมา ซึ่งทางทีมงาน Akibatan ก็ต้องขอขอบคุณทาง JETRO ที่เป็นหัวหน้างานให้มีงานดีๆแบบนี้เกิดขึ้น และขอขอบคุณทีมงาน GYu Creative ที่ให้โอกาสทางทีมงานเพื่อเข้าไปเก็บตกภาพบรรยากาศกิจกรรม J Series Festival 2014 ในครั้งนี้ด้วยอีกครั้งหนึ่งครับ