จาก Mawaru Penguindrum สู่ Yurikuma Arashi โศกนาฏกรรมของชาวญี่ปุ่นสู่ต้นกำเนิดของเรื่องราวอันแสนซับซ้อน

8,608 views

Screenshot2012-01-21at105715AM Yurikumaarashivisual

เชื่อว่าคออนิเมหลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตากันมากนัก สำหรับอนิเมชั่นสุดอินดี้สองเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสองผลงานล่าสุดจากผู้กำกับ Ikuhara Kunihiko ที่เป็นเจ้าของผลงานระดับตำนานอย่างนักรบสาวอูเทน่าเมื่อหลายปีก่อน แต่แล้วอนิเมชั่นสองเรื่องนี้ ที่ดูเหมือนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย มันมีอะไรแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในเรื่องราวพิลึกกึกกือนั้นด้วยหรือ ต้องขอตอบว่า มีมากมายจนไม่อาจจะหยิบยกมากล่าวถึงให้จบในระยะเวลาสั้นๆ เลยทีเดียวครับ แต่ ณ ที่นี้จึงขอเลือกเอาประเด็นหนึ่ง ที่ทั้งสองเรื่องมีที่มาที่ไปอันคล้ายคลึงกัน เรื่องในโอกาสที่ Yuri Kuma Arashi เพิ่งเริ่มฉายได้ไม่นาน มากล่าวถึงสักหน่อยดีกว่า

494465-34035_3

ผู้กำกับ Ikuhara (ขวา) กับ Arakawa Miho (ซ้าย) นักพากย์สาวเจ้าของเสียง Himari (Penguindrum) และ Ginko (Yurikuma) ที่ได้ร่วมงานในอนิเมทั้งสองเรื่อง

Penguindrum กับ เหตุก่อการร้ายรถไฟใต้ดินของลัทธิโอมชินริเกียว

 vlcsnap-2015-01-20-14h41m30s190

สามพี่น้องทาคาคุระ จากซ้าย Shoma น้องรอง Kanba พี่คนโต

vlcsnap-2015-01-20-14h20m27s67

Himari น้องคนเล็ก

ในอนิเมชั่นที่ฉายไปเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมานั้น เรื่อง Mawaru Penguindrum ถือว่าเป็นอนิเมกระแสรองที่ค่อนข้างได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ชมนอกเหนือจากอนิเมกระแสหลักในช่วงนั้นอย่าง iM@S หรือ Utapri ภาคแรก กับเรื่องราวของสามพี่น้องตระกูลทาคาคุระที่กำพร้าพ่อแม่ และกำลังจะสูญเสียน้องสาวคนเล็กของบ้านไป แต่ว่าเธอกลับถูกต่อชีวิตด้วยหมวกเพนกวินลึกลับใบหนึ่งที่ทำให้เธอกลายเป็นตัวแทนของ “เจ้าหญิงคริสตัล” ในการมอบภารกิจ “ยุทธการเอาชีวิตรอด” ให้พี่ชายทั้งสองออกตามหา “เพนกวินดรัม” เพื่อต่อชีวิตของน้องสาวให้ยืนยาวต่อไปให้ได้แม้จะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็ตาม

vlcsnap-2015-01-20-14h21m10s230

Himari ที่ได้รับพลังจากหมวกเพนกวินลึกลับทำให้ฟื้นคืนชีวิต และเมื่ออยู่ในร่างของ “เจ้าหญิงคริสตัล” เธอจะมอบหมายภารกิจเกี่ยวกับการตามหา “เพนกวินดรัม” แก่พี่ชายทั้งสอง

vlcsnap-2015-01-20-14h21m23s113

แต่ทว่าช่วงกลางเรื่อง ได้มีการเปิดเผยถึงปูมหลังของสามพี่น้องนี้ โดยที่พ่อแม่ของพวกเขา เคยเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้ก่อการร้าย (ในเรื่องเรียกว่าเป็น “องค์กร” มีสัญลักษณ์เป็นรูปเพนกวินสีขาวดำ) ที่ก่อเหตุสร้างโศกนาฏกรรมในรถไฟใต้ดินสายหลักที่กรุงโตเกียว จนนำมาสู่ความแตกแยกของครอบครัวทาคาคุระ และเปลี่ยนวิถีชีวิตของสามพี่น้องไปตลอดกาล

vlcsnap-2015-01-20-14h32m12s232

องค์กรคิกะ มีสัญลักษณ์เป็นรูปเพนกวิน ที่ซึ่งก่อเหตุวินาศกรรมสถานีรถไฟใต้ดินภายในเรื่อง

vlcsnap-2015-01-20-14h33m24s182

vlcsnap-2015-01-20-14h36m59s42

ภาพในห้วงมิติที่ตัวละครบอกเล่าเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมเมื่อ 16 ปีก่อน ฉากรอบ ๆ มีตัวเลข 95 เรียงรายอยู่
อาจหมายถึงปี 1995 ที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งในเรื่องและในความเป็นจริง

In1995TokyocommuterswerepoisonedbythenervegasSarin1-1-1-1-3-1-1-3-0-0-0

แม้ว่าปัจจัยประกอบต่าง ๆ ในอนิเมจะค่อนข้างซับซ้อนและหลากหลาย แต่เหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวที่อนิเมเอ่ยว่าเป็น 16 ปีก่อน ถือว่าตรงกับปีเดียวกัน (2011-16 = ปี 1995) ในอุบัติการณ์แก๊สซารีน (Subway Sarin Incident) ที่ผู้นำลัทธิโอมชินริเกียว (ลิทธิความเชื่อหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างพุทธและฮินดู โดยมีความเชื่อในวันสิ้นโลก) ได้ทำการปล่อยแก๊สพิษโจมตีบริเวณชุมสายรถไฟใต้ดินสถานี Kasumigaseki (คาซุมิกาเซกิ) และ Nagatacho (นางาตะโจ) ซึ่งอยู่บนเส้นรถไฟใต้ดินสาย Marunouchi (มารุโนอุจิ) ซึ่งเป็นสายรถไฟเดียวกับที่มีการนำเสนอในอนิเมชั่นเรื่องนี้อีกด้วย อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุในอนิเมก็ตรงกัน จึงอาจจะกล่าวได้ว่า เหตุการณ์ก่อวินาศกรรมของ “องค์กร” ในอนิเมเรื่องนั้น มีแรงบันดาลใจหรืออ้างอิงมาจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญครั้งใหญ่ของชาวกรุงโตเกียวในตอนนั้นอย่างมีนัยยะชัดเจน

001 (1)

ภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุเมื่อปี 1995

Sarin-gas-attack1

 Clip

เส้นทางการก่อเหตุของผู้ก่อวินาศกรรมบนเส้นทางรถไฟสาย Marunouchi

 vlcsnap-2015-01-20-14h19m50s190

ภายในอนิเมมีการนำเสนอเส้นทางการเดินเรื่องด้วยรถไฟสถานีต่างๆ บนสาย Marunouchi ทั้งหมด

vlcsnap-2015-01-20-14h24m20s99

 นอกจากนี้ในอนิเมยังมีความหมายแฝงเชิงสัญลักษณ์ในด้านต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น ค่านิยมการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่น หรือ คอนเซ็ปต์เกี่ยวกับละครเวที และอื่น ๆ ซึ่งถ้าให้แจกแจงทั้งหมดคงยาวน่าดูครับ เอาเป็นว่าในแง่ของการนำเหตุโศกนาฏกรรมที่เป็นข่าวใหญ่โตในญี่ปุ่นมาใช้ สำหรับผลงานชิ้นต่อมาของผู้กำกับ Ikuhara ก็ยังคงมีต่อไป ในเรื่องนี้ครับ

Yuri Kuma Arashi กับ อุบัติการณ์หมีสีน้ำตาลที่ Sankebetsu

vlcsnap-2015-01-20-13h58m58s105

vlcsnap-2015-01-20-14h13m44s98

Ginko (หมีสีดำ) และ Ruru (หมีสีน้ำตาล) หมีสาวคู่หูที่แฝงตัวเข้ามาหมายจะ “กินมนุษย์”

อนิเมชั่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะซึ่งแต่งเรื่องโดยผู้กำกับ Ikuhara เอง โดยในฉบับอนิเมนั้นได้เริ่มฉายในซีซั่นต้นปี 2015 นี้ เบื้องต้นเลยเรื่องนี้กล่าวถึงโลกในยุคสมัยหนึ่งที่ดาวตกประหลาดจากฟากฟ้า ได้มอบพลังให้กับ “หมี” ในการแทรกซึมอยู่กับมวลมนุษย์ และยังทำร้ายและกินมนุษย์อีกด้วย โดยที่ตัวเอกของเรื่องนี้ Kureha คือเด็กสาวที่พบกับความสูญเสียจากเหล่าหมี จึงได้จับปืนออกไล่ล่าหมีที่แฝงตัวอยู่ในหมู่ผู้คน แต่เรื่องราวกลับเต็มไปด้วยปมซับซ้อนซ่อนเงื่อนอีกมากมายสุดจะคาดเดา

 vlcsnap-2015-01-20-16h16m52s220

Kureha เด็กสาวที่สูญเสียแม่และคนรักไปเพราะหมี จึงตั้งปณิธานในการเป็นนักล่า

vlcsnap-2015-01-20-16h17m46s246

แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องหรือได้รับแรงบันดาลใจจากโศกนาฏกรรมในอดีตอย่างไร อันที่จริงก็มีการเผยไว้ตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้วด้วยครับ กล่าวคือ คำว่า “Kuma Arashi” (แปลว่า พายุหมี) จากชื่อเต็มของเรื่องนั้น เป็นชื่อของวรรณกรรม ละครวิทยุ และละครเวที ที่นำเสนอเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวช่วงยุค 60 ถึง 80 และปีที่เกิดเหตุดังกล่าวนี้คือปี 1915 หรือก็คืออนิเมเรื่องฉายในช่วงครบ 100 ปีของอุบัติการณ์นี้อีกด้วย นอกจากนี้ ภาพแขวนบนผนังในห้องนอนของตัวเอก Kureha ยังมีภาพถ่ายโบราณของอุบัติการณ์ดังกล่าวติดตั้งอยู่อีกต่างหาก

vlcsnap-2015-01-20-13h59m43s52

ภาพแขวนบนผนังห้องนอนของ Kureha คล้ายคลึงกับภาพการล่าหมี Kesagake ในอุบัติการณ์เมื่อปี 1915

 ดาวน์โหลด (7) 20150106_507261

ภาพปกวรรณกรรม “Kuma Arashi” (ซ้าย) ที่เขียนขึ้นจากอุบัติการณ์ปี 1915 กับภาพปกมังงะ “Yurikuma Arashi” เล่ม 1 สังเกตว่าชื่อเรื่องทั้งสอง ตรงอักษรคันจิสองตัว “Kuma Arashi” ใช้อักษรเดียวกัน

โดยอุบัติการณ์ ดังกล่าว ได้รับการเรียกขานว่าเป็นเหตุการณ์หมีทำร้ายมนุษย์ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในญี่ปุ่น เหตุนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดฮอกไกโด เมืองโทยามะ หมู่บ้าน Sankebetsu (ซันเคะเบะซึ) ซึ่งในยุคสมัยนั้นผู้คนยังใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขาและที่ราบลุ่มเป็นส่วนมาก และหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่ชาวบ้านตั้งชื่อมันว่า Kesagake (เคซากะเกะ) ได้เข้ารุกรานไร่ข้าวโพดจนถูกชาวบ้านยิงบาดเจ็บ แต่แล้วมันก็กลับมาล้างแค้นเหล่าชาวบ้านอย่างเหี้ยมโหด ด้วยการบุกเข้าบ้านที่ไร้การป้องกัน ฆ่าและฉีกกินทั้งเด็กและผู้หญิงรวม 6 คนในระยะเวลาเพียงสองวัน หลังจากนั้นเหล่าชาวบ้านกับทีมนักล่าก็รวมตัวกันเพื่อไล่ล่าเจ้าหมีตัวนี้ และในที่สุดก็จัดการมันได้ในไม่กี่วันต่อมา

44b7e0c2

อนุสรณ์สถาน Sankebetsu ที่ฮอกไกโด มีรูปปั้นจำลองขนาดเท่าตัวจริงของหมี Kesagake และกระท่อมฟางที่จำลองเป็นบ้านของผู้เคราะห์ร้ายในเหตุการณ์ครั้งนั้น รวมทั้งมีการจัดแสดงเป็นกึ่งนิทรรศการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว

7c2e464b5f277dc99644e9c324498a48

เกร็ดที่น่าสนใจคือ Haruyoshi Ogawa ลูกชายผู้นำหมู่บ้านที่เกิดเหตุนั้น เขาได้เติบโตเป็นนักล่าหมีมือฉมัง และปฏิญาณตนว่าจะออกล่าหมีเป็นการล้างแค้นให้กับชาวบ้านที่ตายจากไปอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายสิบปี สังหารหมีป่าไปกว่า 100 ตัวจนวางมือในวัยชรา แล้วจึงสร้างอนุสรณ์สถานให้แก่เหล่าผู้คนที่เสียชีวิตจากหมีป่าไว้เป็นเครื่องรำลึกอีกด้วย ซึ่งเจตนารมณ์ดังกล่าวก็ถือว่าใกล้เคียงกับบทบาทของ Kureha ในอนิเม ที่ลุกขึ้นมาจับปืนออกไล่ล่าหมีที่แฝงกายในหมู่มนุษย์ และก็อาจจะกล่าวได้ว่า อนิเมเรื่องนี้ ได้นำเอาคอนเซ็ปต์ของการที่หมีรุกรานและกินมนุษย์จากอุบัติการณ์ดังกล่าว มาเป็นแรงบันดาลใจนั่นเอง

  blog_import_51543da316827

ภาพถ่ายคุณ Yamamoto Heikichi นักล่าหมีมือฉมัง ที่เป็นแกนนำในการไล่ล่าหมี Kesagake

vlcsnap-2015-01-20-14h14m50s4

ภาพ Kureha ในอนิเมขณะถือปืนเผชิญหน้ากับหมี

และอนิเมทั้งสองเรื่องนี้ แม้ภาพรวมจะเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อน แต่จากที่มีการอ้างอิงถึงโศกนาฏกรรมในอดีต ให้กลายมาเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับความสูญเสีย ก็ได้ช่วยให้ทั้งสองเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้น และสะท้อนถึงแง่มุมอีกมากมายจากความเป็นมนุษย์ ที่สื่อถึงความเป็นและความตายอย่างถึงแก่นเลยทีเดียว ก็เป็นอีกหนึ่งเกร็ดสาระที่เราขอนำมาฝากไว้ ณ ที่นี้ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก