สวัสดีทุกท่าน ในงาน Thailand Toy Expo ที่ผ่านมา ทางทีมงานของเราก็ได้ไปพบกับผลงานปั้น “ทศกัณฑ์” สุดอลังการเข้า แต่พอไปดูที่โต๊ะแสดงผลงานอื่นๆ กับพบงานปั้นโมเอะๆ มากมาย ซึ่งนักคนนี้เคยได้รับรางวัลผลงานจากงาน Wonder Festival ที่ญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว เขาก็คือ คุณคำนวน เจริญสุข นั่นเอง ในคราวนี้เราก็จะมาพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับการปั้นโมเดลกันเลย!
ประสบการณ์ทำงานสายโมเดลเป็นอย่างไรบ้างครับ
พี่เป็นนักทำโมเดลสายฟรีแลนซ์ มีประสบการณ์มาแล้วกว่า 25 ปี เคยทำงานให้กับบริษัทญี่ปุ่นมาหลายที่มาก และเคยได้รางวัลที่สอง ในการประกวด กัปปะในงาน Wonder Festival ที่ญี่ปุ่น
และได้รางวัลเหรียญทองจากประเทศอเมริกามาด้วย
พี่เริ่มต้นเข้าสู่วงการนี้มาได้อย่างไงครับ
ก็มาจากความรู้สึกสมัยเด็ก พวกโมเดลต่างจากญี่ปุ่นค่อนข้างราคาสูงมาก ตอนนั้นก็ทำงานเกี่ยวกับเรื่องเพ้นท์สีมาด้วยก็เลยรู้สึกว่าน่าจะทำเองได้ จากนั้นเลยเอาเงินไปลงทุนซื้ออุปกรณ์แล้วก็ซื้อหนังสือสอนทำโดเดลสมัยนั้นมาช่วย พอทำเสร็จครั้งแรกก็รู้สึกตลกดี หลังจากนั้นก็ลองทำไปทำมาเรื่อยๆ จนพัฒนาออกมาเรื่อยๆ
แต่ละตัวที่ทำใช้เวลานานไหม ทำแล้วล้มเหลวเยอะไหมกว่าจะออกมาดี
ก็ทำเรื่อยๆ ไม่ดีพอก็ทำใหม่ สิ่งสำคัญคือเรื่องอนาโทมี่เป็นหลัก
พี่ใช้หลักในการฝึกปั้นโมเดลอย่างไรครับ ทำทีละส่วนซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะออกมาดีแบบที่นักวาดเขาฝึกกันหรือเปล่า
ก็คล้ายๆ กัน แต่งานปั้นจะมีเรื่องน้ำหนักและจุดศูนย์ถ่วงเข้ามาเกี่ยวด้วย ความสมดุล และจุดบาล้านซ์หลังจากทำท่าทางต่างๆ ของตัวโมเดลนั้น ต้องทำให้ยืนได้ โมเดลที่ดีควรทำออกมาให้เห็นได้สามมุม ดีที่สุดคือทำให้ได้ทุกมุม ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากเพราะเราไม่ได้ปั้นให้ดูแค่ด้านเดียว
ผลงานชิ้นแรกที่พี่ปั้นเสร็จ พี่รู้สึกอย่างไรครับ
ไม่พอใจครับ จริงๆ ต้องบอกว่าไม่เคยพอใจกับงานเก่าร้อยเปอเซ็นต์ เวลาย้อนกลับมาดูทุกตัวที่ปั้นมันจะเติมเต็มแค่ส่วนนึง แต่เรายังรู้สึกว่ามันไปได้อีกนะ
สไตล์การปั้นของพี่ เป็นอย่างไงครับ มีเปลี่ยนไปหลากหลายเลยไหม
ก็ค่อนข้างหลากหลายครับ แต่ก็รักแนวโมเอะ โมเดลผู้หญิงที่สุดฮ่าๆ จริงๆ ก็ชอบแนวโรบอทด้วย ถ้าเป็นคนชอบการ์ตูนมาตั้งแต่สมัยก่อนคงเข้าใจรสนิยมนี้นะ
พอจำได้ไหมครับว่าผลงานโมเดลที่พี่ปั้นมา เป็นจำนวนเท่าไหร่แล้ว
อืม เยอะจนจำไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ คือเกินร้อยแล้วล่ะ
ผลงานที่เป็นมาสเตอร์พีสล่ะ
งานกัปปะ ที่ลงงาน Wonfes นี่ถือว่าเป็น Masterpiece ของพี่นี่แหละ ส่วนงานที่ชอบที่สุดก็คือ คิสึเนะ จากเกม Oboro Muramasa เนี่ยแหละที่ชอบมาก
จุดสำคัญของการปั้นโมเดลมีอะไรบ้าง
บาลานซ์ น้ำหนัก ความพริ้ว ไดนามิกของฟิกเกอร์ ที่ทำออกมาแล้วดูมีชีวิตชีวาและเป็นธรรมชาติที่สุด
ยิ่งเป็นการทำฟิกเกอร์ผู้หญิง ต้องทำให้มองดูแล้วเกิดความรู้สึกบางอย่าง ไม่ใช่ดูงามๆ เฉยๆ
ขนาดก็เกี่ยวไหมครับ
เกี่ยวมาก ยิ่งตัวใหญ่เท่าไหร่การทำจุดบาลานซ์ยากมากขึ้นเท่านั้น ถ้าตัวโมเดลเล่นท่ายาก คนทำโมเดลนี่ต้องเหนื่อยเอาเรื่องเลย วัตถุดิบก็สำคัญเช่นกัน อย่างไทยก็มีเรื่องอากาศร้อนจนละลาย ทางญี่ปุ่นบางที่ก็หนาวจนฟิกเกอร์ตกมาแตกก็มี
ผลงาน “ทศกัณฑ์” สุดอลังการ
ไปออกงาน Wonder Festival มากี่ครั้งแล้วครับ
ประมาณ 4 ครั้งครับ งานนี้เข้าไม่ยากแต่จะได้เข้ามันยาก เพราะถ้าไม่ใช่ดีลเลอร์ใหญ่จะถูกจับฉลากเข้าไป ครั้งแรกเรามีโอกาสเข้าไปแบบแบรนด์โนแนม ก็ถือว่าเป็นการได้ประสบการณ์และประสบความสำเร็จพอสมควร งานที่นู่น ในช่วงเวลา 10 โมง เช้าถึง 10 โมงเย็น เป็นอะไรที่เต็มที่มากๆ เห็นคนเป็นหมื่นมาดูงานเรา มันรู้สึกดีจริงๆ
แนวทางในอนาคตของพี่ งานปั้นจะเป็นอย่างไรครับ
ในความรู้สึกของพี่ อยากจะยกระดับงานโดมเดลให้เป็นงานอาร์ท ไม่ใช่แค่อาร์ททอย ยกให้เป็นงานศิลปะอีกสเต็ปนึงเลย งานโมเดลมีอะไรมากกว่างานประติมากรรมนะ งานโมเดลมันจะเหมือนเฉพาะทางกับคนที่สนใจมากกว่า การที่จะทำให้มีจุดที่ว่าใครมาเห็นก็รู้สึกสนใจรู้สึกชอบทันที มันเป็นไปได้ยาก พี่อยากจะไปให้ถึงจุดนั้นให้ได้
มีความคิดที่จะเปิดสอนการปั้นโมเดลบ้างไหมครับ
ปลายปีนี้เดี๋ยวจะมีเปิดคอร์สสอนการปั้น โมเดลสไตล์ญี่ปุ่นสายโมเอะ เพราะเชื่อว่าในไทยมีไม่กี่คนที่เข้าถึงงานปั้นโมเดลสไตล์นี้ มีน้อยคนที่ปั้นกันจริงจัง ส่วนใหญ๋จะซื้อสำเร็จรูปกันทั้งนั้น พี่เคยไปดูงานของโปรจริงๆ จากต่างประเทศ พวกนั้นระดับสูงมาก ยิ่งพวกที่มีออริจินอลของตัวเองแล้วมีคนชอบด้วย พวกนี้นี่ขั้นเทพเลย
จุดประสงค์ที่อยากจะเปิดสอน คืออยากเห็นเด็กในประเทศทำกาจราจคิทกันเอง อยากเห็นมีความตั้งใจ ความคิดใหม่ๆ การสร้างสรรค์ใหม่ๆ
ตรงนี่เราต่างกับทางญี่ปุ่นเยอะไหมครับ
ต่างอยู่นะ ที่ญี่ปุ่นมีเครืองมือสนับสนุนเยอะไปหมด ตั้งแต่คนที่เริ่มสนใจไปยันระดับมืออาชีพเลย ที่นู่นมีแทบทุกอย่างที่จะเอามาช่วยในการทำได้ ในไทยบางอย่างหาลำบากมาก ถ้าไม่มีก็ต้องพยายามหาอย่างอื่นมาประยุกต์ พอไม่สำเร็จมันก็เกิดอาการท้อแท้ไม่อยากทำ
ที่ญี่ปุ่นปลูกฝั่งด้วยความง่ายความสะดวก พอทำได้ มีนก็เกิดความรู้สึกอยากทำต่อ และเกิดความรู้สึกอยากลงลึกขึ้นเรื่อยๆ ไปอีกระดับนึง พี่ว่าถ้ามีการสนับสนุน หรือความสนใจตรงนี้มากขึ้น จนตลาดมันโต เชื่อว่าวงการสายอนิเมในไทยจะมีสีสันขึ้นเยอะ อยากให้มีการประกวดอะไรแบบนี้เกิดขึ้นด้วย พี่อยากอยากสอนเทคนิคที่ตัวเองได้ลองผิดลองถูกมาตลอดการทำงนของพี่ให้ กับการใช้อุปรกณ์ที่มีแค่ในประเทศนี้มาใช้ด้วย
ถ้าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ ลองพยายามทำแบบที่พี่ทำดูบ้าง ก็คิดว่ามีโอกาสไปไกลได้แน่นอน ถ้าสักวันมีความสนใจกันเยอะๆ ก็อยากจะตั้งสมาพันธ์คนไทยไปรวมกันออกงานที่โน่นกัน เอาผลงานพวกเราไปโชว์ชาวต่างชาติกัน
สามารถติดตามผลงานใหม่ๆของพี่คำนวนได้ในลิงค์ข้างล่างนี้จ้า
https://www.facebook.com/Made-by-nubmodel-khumnaun-jaruensuk-1556634947971978/
https://www.facebook.com/Kglidar