สวัสดีผู้อ่านทุกท่าน การที่เราได้มาเจอกันอีกครั้งก็เป็นนิมิตหมายว่า ซีซั่นเก่าจบไปซีซั่นใหม่มา ก็พบกันเช่นเคยกับ รีวิวอนิเมะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ของทางญี่ปุ่น) ซึ่งเช่นเคยจะเป็นการดู “ตอนที่1” ของแต่ละเรื่องมาให้ได้อ่านกัน เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะดูเรื่องไหนเปิดฉากได้น่าติดตามกันบ้าง
ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยครับ (อันดับเรื่องรีวิวก่อน/หลัง ไม่ได้บ่งชี้ว่าเรื่องนั้นดี/ไม่ดีกว่ากันครับ)
Mahou Shoujo Ikusei Keikaku
เริ่มกันด้วยเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนต์ใส ๆ อีกแล้วที่เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป โดยเรื่องนี้ก็มีต้นฉบับมาจากไลท์โนเวลและดัดแปลงมาทำอนิเมะ โดยเป็นผลงานของอ. Endou Asari
สำหรับเรื่องนี้ก็มีเรื่องราวในโลกที่มีเกมมือถือที่สามารถมอบพลังให้คนเล่นได้กลายเป็นสาวน้อยเวทมนต์ได้่จริง ๆ มีพลังพิเศษ ช่วยเหลือผู้คน แต่อยู่มาวันหนึ่งผู้ดูแลตัดหางปล่อยวัดบอกมาว่า พลังเวทมนต์ไม่พอเลยต้องลดจำนวนสาวน้อยเวทมนต์ลงถึงครึ่งหนึ่ง โดยให้ทุกคนทำคะแนนมาแข่งขันกันเพื่อคัดออก และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้
รู้สึกได้ถึงความตับแตกในช่วงหลังเพราะแค่เปิดมาก็มีฉากเลือดสาดบอกใบ้ช่วงท้าย ๆ เสียแล้ว ค่อนข้างให้ความรู้สึกเหมือนกับ Mask rider ryuki ค่อนข้างมากซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าสนใจเพราะด้วยความเป็นสาวน้อยเวทมนต์แต่แทนที่จะสู้กับเหล่าร้าย กลับต้องมาสู้ (ซึ่งในเรื่องนี้มีตั้งแต่แข่งขันกันเองจนไปถึงต่อสู้กันเอง) เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย ในตอนแรกนี้ก็จะเน้นไปที่แนะนำตัวละคร และเล่าที่มาที่ไปว่าตัวละครหลักได้พลังมายังไงโดยจะเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ ไปจนช่วงท้ายตอนซึ่งมีการทิ้งปมไว้ให้คนติดตามต่อในตอนที่สอง ในด้านงานภาพก็ออกมาใส ๆ ค่อนข้างเหมือนต้นฉบับพอดู นอกจากนี้การออกแบบตัวละครสาวน้อยเวทมนตร์ก็ทำได้หลากหลายดี ที่สำคัญคือร่างต้นกับร่างแปลงของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกันมาก (ทั้งทรงผม สีผม รูปร่าง) ซึ่งทำให้ดูสมเหตุสมผลขึ้นถ้าหากเทียบกับการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์อื่น ๆ ที่แปลงร่างแล้วแทบจะเหมือนเดิมทุกอย่างแต่คนรอบตัวกลับจำไม่ได้ซะงั้น
ก็ต้องติดตามกันต่อไปสำหรับใครที่อยากจะหาอะไรเข้มข้น ๆ ดูให้ทรมาณตับเล่นอาจจะใช้ได้เลยทีเดียว แต่ในช่วงแรกคงปูเนื้อเรื่องไปสักพักเพราะฉะนั้นก็อดใจรอกันฉากปวดตับปวดไตต่อไป
Shuumatsu no Izetta
ออริจินอลอนิเมะจาก Studio Ajia-dou ซึ่งคราวนี้กล่าวถึงแม่มดที่เหลือรอดมาอยู่ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2!! โดยที่ ประเทศ Eylstadt ที่นางเอก Fine เป็นเจ้าหญิงอยู่นั้น ได้โดนมหาอำนาจ Geramanin รุกรานทำให้ต้องออกเดินทางขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น ๆ และนั่นทำให้ได้พบกับ Izetta แม่มดสาวผมแดง และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้
ใช่ครับ นี่เป็นอีกหนึ่งในเรื่องราวของสาวน้อยเวทมนตร์ในแบบที่เราไม่ค่อยเห็นกันสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องนี้ คือสมรภูมิรบในยุคสงครามโลกกันเลยทีเดียว !
สำหรับเรื่องนี้เรียกว่าเรื่อย ๆ เลยล่ะมีช่วงลุ้นเอาตอนท้ายและทำออกมาได้ตราตรึงสมกับเป็นตอนแรก ด้านเนื้อเรื่องก็ตามเรื่องย่อแต่บรรยากาศซีเรียสมาก ๆ โดยในตอนแรกจะเป็นการเดินทางของนางเอกจนไปเจอกับ Izetta ความหวือหวาจึงจัดหนักมาท้าย ๆ ตอน ซึ่งการวางบทต่าง ๆ ทำได้น่าสนใจ ตัวละครแม้ตัวประกอบยังทำให้น่าจดจำ ในด้านงานภาพทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ฉากต่อสู้ตื่นตาสะใจ และตัวละครทั้งองค์หญิง Fine และ Izetta นั้นถูกออกแบบมาได้น่ารักน่าติดตาม แถมด้วยมีเจ๊หิว (May’n) ร้องเพลงปิดให้ พ่วงมาพร้อมกับสี่ยอดกุมาร (AKINO with bless4) ร้องเพลงเปิด จึงเรียกได้ว่าเป็นองค์ประกอบอนิเมะที่ลงตัว และน่าติดตามกันว่าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไรครับ
Tiger Mask W
หน้ากากเสือ สำหรับใครที่มีอายุหน่อยน่าจะคุ้นเคยกันมาบ้างและสำหรับในยุคนี้ หน้ากากเสือ ก็ได้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Tiger Mask W ซึ่งเป็นการ Remaster หน้ากากเสือขึ้นมาใหม่ ซึ่งคราวนี้ไม่ได้มีแค่ 1 แต่มีถึง 2
เรื่องนี้เกี่ยวกับ 2 หนักมวยปล้ำหนุ่ม Azuma Naoto และ Fujii Takuma ได้ถูกนักมวยปล้ำนาม Yellow Devil ทำร้ายคนสำคัญทำให้ทั้งสองต่างก็แยกย้ายฝึกฝนเพื่อที่จะกลับมาล้ม Yellow Devil ให้ได้ โดยทาง Azuma Naoto ได้ฝึกฝนจนกลายเป็นหน้ากากเสือ ส่วน Fujii Takuma ได้เข้าสู่ด้านมืดฝึกฝนกับ Tiger Den สุดท้ายนี้ปลายทางของทั้งสองจะเป็นเช่นไร ติดตามต่อได้ใน Tiger Mask W
สนุกกว่าที่คิดมาก ตอนแรกเห็นว่าเป็น Remaster เลยดูแบบไม่ได้ตั้งความหวังมากนัก แต่กลับทำให้รู้สึกเพลิดเพลินมาก ในตอนแรกยังไม่ได้เห็นแอคชั่นการปล้ำแบบถึงพริกถึงขิงเท่าไหร่ แต่การเปิดตัวหน้ากากเสือทำได้น่าประทับใจ แม้งานภาพจะออกไปทางก้ำกึ่งระหว่างยุคใหม่และเก่าซึ่งคนรุ่นใหม่อาจจะไม่ชินนัก แต่กลับให้ความรู้สึกที่ลงตัว การวางหน้ากากเสือ 2 คนทำให้ลุ้นว่าทั้งสองจะมาบรรจบกันในตอนไหน และด้วยเพลงประกอบทั้งเปิดและปิดที่ทำออกมาเร่าร้อนมาก สำหรับการต่อสู้บนสังเวียน ก็หวังว่าในตอนต่อ ๆไ ปจะดุเดือดกว่านี้ ซึ่งถ้าใครที่รู้จักหน้ากากเสือ หรือใครที่ชื่นชอบในมวยปล้ำ ต้องลองติดตามกันดูครับ
Occultic;Nine
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าจับตาของซีซั่นนี้กับ อนิเมะ ที่สร้างจากไลต์โนเวลและเกมของค่าย MAGES และ Shikura Chiyomaru ผู้สร้าง Steins;Gate และในครั้งนี้ก็มาในแนวลึกลับ ไสยศาสตร์ ผสมไซไฟอีกด้วยล่ะ
โดยเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนทั้ง 9 ที่เกี่ยวพันกันด้วยเรื่องราวเหนือธรรมชาติ การฆาตกรรมหรือเหตุโศกนาฏกรรมอันน่าสะพรึงกลัว โดยมีบล็อค Kirikiri Basara ที่เขียนโดย Gamon Yuuta เป็นจุดเชื่อมโยง และมี Ryotas สาวน้อยที่หน้าอกใหญ่ (โคตร) เป็นตัวละครที่หลายคนจดจำได้มากที่สุดอีกตัวหนึ่ง
ต้องเรียกว่าสมเป็นผลงานของผู้สร้าง Steins;Gate จริง ๆ โดยในตอนแรกนั้นจะเน้นไปที่การแนะนำตัวละครทั้ง 9 และทิ้งปมเอาไว้ ซึ่งก็คงมีการปูเรื่องหลายตอนจนกว่าจะถึงจุดพีคเหมือน Steins;Gate ซึ่งในตอนที่ 1 นี้ทั้งการกำกับงานภาพทุกอย่างล้วนออกมาดูดีหมดเรียกได้ว่าทนแทนความน่าเบื่อของการปูเรื่องได้อย่างดีแต่ด้วยการนำเสนอที่ค่อนข้างเร็ว ใครที่ตามไม่ทันอาจจะไม่ชอบในเรื่องนี้ แต่สำหรับใครที่ชอบ Steins;Gate ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ใครที่หาอนิเมะ Mystery, Sci-Fi ที่มีวิธีนำเสนอเจ๋ง ๆ ดูก็ต้องลองเรื่องนี้ดูครับ
Drifters สงครามผ่ามิติ
มังงะอีกเรื่องของ อ.Hirano Kouta ผู้เขียน Hellsing ที่ได้รับการถูกนำมาสร้างเป็นอนิเมะไปอีกหนึ่ง สำหรับเรื่องนี้ในบ้านเราตัวมังงะเป็นลิขสิทธิ์ของทาง SIC ปัจจุบันออกมาทั้งหมด 3 เล่มแล้วจ้า
โดยมีเรื่องย่อราวเกี่ยวกับ Shimazu Toyohisa (ชิมาสึ โทโยฮิสะ) ขุนพลแห่งเกาะคิวชูที่เข้าร่วมในสมรภูมิ เซกิงาฮาระ ในยุคเซนโกคุได้บาดเจ็บเจียนตายและถูกพาไปในโลกต่างมิติและนั่นทำให้เค้าได้พบกับ โอดะ โนบุนากะ และ นาสึโนะ สึเคทาสะ โยอิจิ และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการปกป้องโลกพร้อมกับเหล่าบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์
เป็นการยำใหญ่ที่รวมเอาบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มาสู้กัน ทั้ง โอดะ โนบุนากะ ฮันนิบาล บาร์กา หรือกระทั้ง ณาน ดาร์ก โดยรวมทั้งหมดมาไว้ในโลกต่างมิติซึ่งทั้งการกำกับงานภาพล้วนออกมาเหมาะเจาะกับเรื่องนี้มากรวมไปถึงคิวบู๊ที่ออกมาดุดัน ตัวบทก็อิงตามเนื้อหาในมังงะตรงส่วนนี้ไม่น่าจะมีปัญหา ด้านภาพนี่เส้นหนา ๆ ตัวละครหน้าตาซาดิสต์ตามต้นฉบับ พร้อมบรรยากาศอึมครึม มืดมน เหมาะสำหรับคอชอบสงครามแอคชั่นโดยเฉพาะทีเดียวครับ และใครเป็นแฟนผลงานของ อ.Kouta น่าจะยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
Flip Flappers
ออริจินอลอนิเมะจาก Studio 3Hz ที่ฝากผลงานไว้กับ Sora no Method และ Dimension w ซึ่งในครั้งนี้จะมาในรูปแบบอนิเมะสาวน้อยผจญภัยไปกับในโลกของ Pure Illusion
เรื่องนี้จะเกี่ยวกับผู้หญิงปริศนา Papika ได้ลากนักเรียนมัธยม Cocona เข้าไปใน Pure Illusion สถานที่ต่างมิติและรวมไปถึงช่วงเวลา ซึ่งก็ได้นำทั้งสองไปสู่การค้นหาสมบัติปริศนาที่จะทำให้ความขอเป็นจริง
สดใสมาก เรียกได้ว่าสว่างเลยจริง ๆ กับเรื่องนี้กับความใสซื่อของ Papika และ Cocona สาวน้อยขี้ระแวง โดยในตอนแรกนี้จะเป็นการปูเรื่องและแนะนำตัวละครเล็กน้อยรวมไปถึงปมต่าง ๆ ที่ทิ้งเอาไว้พอเรียกความอยากรู้อยากเห็น แต่ด้วยการที่มีสองสาวน่ารักคลอเคลียกันในเรื่องก็เป็นอะไรที่น่ายินดี การกำกับเรียบ ๆ ตัวบทเรื่อย ๆ แต่ที่น่าชมคือด้านภาพ เพราะด้วยสไตล์งานแบบนี้ที่ลายละเอียดในด้านต่าง ๆ น้อยจึงสามารถทุ่มไปกับเฟรมเรท และหน้าตารวมไปถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครได้อย่างดีทำให้งานออกมาลื่นไหลและสวยงาม โดยรวมแล้วถือว่าดี มีกลิ่นยูริอ่อน ๆ(?) ใครสนใจแนวสองสาวผจญภัย ดูสาว ๆ มุ้งมิ้ง ฮีลลิ่งจิตใจกันก็ขอแนะนำ
Sangatsu no Lion ตราบวันฟ้าใส
จากมังงะที่สร้างความประทับใจให้ผู้อ่านไม่รู้ลืมมาสู่อนิเมชั่นในซีซั่นนี้โดย Studio Shaft กำกับโดย Akiyuki Shinbo และนอกจากนี้เรื่องนี้ยังได้ถูกดัดแปลงไปเป็นภาพยนตร์คนแสดงด้วยล่ะ
เรื่องนี้จะเกี่ยวกับ Kiriyama Rei นักเล่นหมากรุกญี่ปุ่นอาชีพวัย 17 ปี ที่สูญเสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุ ด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทำให้เขาต้องออกมาอยู่อาศัยคนเดียว และได้พบกับพี่น้องสามใบเถา Hinata, Akari, Momo และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรื่องนี้
น่าจะเรียกว่าเป็น Slice of Life กึ่ง ๆ Drama ที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้เลยก็ว่าได้ ด้านบทของเรื่องไม่มีปัญหาเพราะทำตามมังงะ แต่ที่น่าสนใจคือการกำกับออกมาที่แบ่งช่วงอารมรณ์ออกเป็น 2 ส่วนทั้งความมืดมนของตัว Kei เมื่อเค้าอยู่คนเดียวและเล่นหมากรุกญี่ปุ่น กับความอบอุ่นสดใสอ่อนโยนของพี่น้องสามใบเถาที่มีให้แก่ Kei ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกได้ว่า Shaft ทำออกมาได้ลงตัวมาก ๆ ด้านงานภาพแม้จะไม่สุดโต่งตามสไตล์ จนอาจจะแปลกใจว่า นี่งาน Shaft แน่หรือ แต่ถ้าลองดูก็จะสัมผัสได้ว่างานยังมีความเป็น Shaft อยู่อย่างเต็มเปี่ยม สำหรับใครที่หาอนิเมะเนื้อหาดี ๆ ดู ก็อยากจะแนะนำเรื่องนี้ไว้เป็นตัวเลือกแรก
Yuri!!! on Ice
ออริจินอลอนิเมะจาก Studio MAPPA ที่มาแนวกีฬา ซึ่งเรื่องนี้มีตัวละครไทยอยู่ด้วยชื่อ “พิชิต” แถมยังมีสถานที่ในไทยอย่าง “อิมพีเรียลสำโรง” โผล่มาอีก ก็เรียกได้ว่าทำให้คนสนใจอยู่ไม่น้อย
เรื่องราวของ Yuri Katsuki นักกีฬา Ice Skating ทีมชาติญี่ปุ่นที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงของงานแข่งขันในระดับโลกแต่แล้วก็พ่ายแพ้ นั่นทำให้เขารู้สึกอยากวางมือจึงกลับมาที่บ้านเกิดของเขา แต่ว่าหลังจากได้พบกับ Nikiforov Victor ไอดอลตั้งแต่สมัยเด็กของ Yuri นั่นทำให้ Yuri มีแรงผลักดันขึ้นอีกครั้ง
ตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรคิดว่าจะออกมาแบบ Free!! แต่ผิดคาดมากเพราะดันสนุกจนลืมเวลาซะงั้น ทั้งตัวบทที่น่าติดตาม ชงให้เอาใจช่วย Yuri และตัวละครต่าง ๆ มากมายที่ประกาศออกมาแต่ยังไม่โผล่มาให้เห็นเช่น พิชิต จากประเทศไทยเรา ที่จะมามีบทบาทในเรื่องนี้ ทั้งการกำกับและงานภาพที่ออกมาคุณภาพคับจอ โดยเฉพาะฉากเล่นสเก็ตที่ทำออกมาพริ้วไหว ตัวละครก็วาดสวยหล่อกระชากใจคนดู สำหรับใครที่อยากหาอนิเมะกีฬาหรือแนวอบอุ่นหัวใจก็อยากจะแนะนำเรื่องนี้เลย เพราะออกมาดีงามมากเทียบเคียงกับ ตราบวันฟ้าใสได้เลยล่ะ
Cheating Craft
เป็นเรื่องราวของโลกที่ผลการสอบนั้นคือทุกสิ่ง ไม่ว่าใครก็ต่างทำทุกวิถีทางทางเพื่อ สร้างอนาคตอันสดใสให้กับชีวิต เหล่าผู้ที่ มุ่งมั่นในการเรียน จะถูกเรียกว่า Learning type หรือ L -Type ส่วนคนอีกกลุ่มคือพวกที่พยายามหาทางโกงสารพัดอย่างไม่ว่าด้วยอุปกรณฺการโกงข้สอบต่างหรือการฝึกฝนทางร่างกาย พวกเขาถูกเรียกว่า Cheating Type หรือ C-Type และนี่คือเคื่องราวของเหล่าผู้ที่ต่อสู้ในสมรภูมิที่เรียกว่าการสอบนี้
สำหรับเรื่องนี้ ก็เรียกว่าเอาเรื่องพื้นฐานอย่างการโกงข้อสอบมาขยายสเกลให้โอเวอร์แปลกตากันเลย ในส่วนของตอนแรกนั้นจะเป็นเพียงอินโทรของเรื่องแต่ด้วยแอคชั่นต่าง ๆ ที่ออกมาดูดีใช้ได้และพล็อตที่น่าสนใจ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าติดตามของซีซั่นนี้เลยทีเดียว
Soushin Shoujo Matoi
อีกแล้วกับแนวสาวน้อยเวทมนต์ แต่ในครั้งนี้ได้พลังจากทวยเทพ กับออริจินอลอนิเมะจาก Studio White Fox แต่เรื่องนี้จะเกิดหรือจะดับมาดูกัน
Matoi Sumeragi หญิงสาวมัธยมที่ทำงานอยู่ที่ศาลเจ้าของเพื่อนสนิท ที่หวังอยากจะใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวธรรมดาทั่วไป แต่กระนั้นแล้วศาลเจ้าที่เธอทำงานอยู่ถูกโจมตีโดยชายลึกลับที่มีพลังพิเศษ นั่นทำให้ Matoi ได้รับพลังจากทวยเทพและกลายเป็นสาวน้อยเวทมนต์ต่อสู้กับชายลึกลับคนนั้น และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ไม่ธรรมดาของ Matoi
เรียกได้ว่ามีสาวน้อยเวทมนต์เยอะจริง ๆ กับอนิเมะในซีซั่นนี้และสำหรับเรื่องนี้ที่สาวน้อยเวทมนต์ได้พลังมาจากเทพ ก็อาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรนักในด้านของพล็อตที่ว่าได้รับพลังแล้วสู้กับเหล่าร้าย แต่จากที่ดูในตอนแรกแล้วนั้นยังตอบอะไรมากไม่ได้ โดยรวมแล้วค่อนข้างน่าเบื่อกับการดำเนินเรื่องและการกำกับแบบนี้ งานภาพจัดว่ากลาง ๆ แต่จัดสีได้สวย แต่สำหรับอนิเมะสาวน้อยเวทมนต์แล้วนั้้นอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการปูเนื้อเรื่อง แต่ในตอนแรกนี้ก็ยัดปมมาเยอะอยู่ ถ้าใครที่ชอบในสาวน้อยเวทมนต์ก็น่าจะชอบเรื่องนี้ล่ะนะ
Soul Buster
ผลงานมังงะของ Bai Mao ที่ถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะ โดย Studio Pierrot รวมกับเว็บสตรีมมิ่งของจีน Youku Tudou ตอนละประมาณ 10 นาที รวม 12 ตอน โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับขุนศึกต่าง ๆ ในยุคสามก๊กถูกเรียกมาต่อสู้กันในยุคปัจจุบัน ซึ่งพระเอกของเรา Son Shin พร้อมกับแม่ทัพใหญ่แห่งง่อก๊ก Shuu yu (จิวยี่) จะผ่านเรื่องราวนี้ไปได้อย่างไรก็ติดตามกันต่อไป
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ทางผู้เขียนสนใจมาตั้งแต่ก่อนฉายเพราะมีสามก๊กเข้ามามีเอี่ยวด้วย ซึ่งอาจจะคาดหวังมากเกินไปเลยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยหลังดูจบ โดยรวมแล้วดำเนินเรื่องค่อนข้างไวเพราะในตอนแรกนี้มีแค่ 10 กว่านาที การกำกับขาดความน่าสนใจทั้ง ๆ ที่มีแค่ 10 นาที ด้านบทดัดแปลงมาจากมังงะไม่น่ามีปัญหา ด้านงานภาพปานกลางค่อนไปทางแย่เล็กน้อยและพยายามให้ซีเรียสเลยทำฟีลเตอให้ออกมาหม่น ๆ แต่ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่นัก ข้อดuเพียงอย่างเดียวที่เห็นคือการที่เราจะได้เห็นขุนศึกในยุคสามก๊กมาต่อสู้กัน โดยในเรื่องนี้แม่ทัพใหญ่จิวยี่ซึ่งตามประวัติศาสตร์จะเป็นนักรบหนุ่มรูปงามแห่งกองทัพเรือ โดยในเรื่องนี้ก็กลายเป็นแม่นางจิวยี่ (เป็นผู้หญิง) ไปเสียแล้ว ซึ่งก็เป็นเรื่องดีสำหรับหนุ่ม ๆ (มั้ง) เพราะออกแบบมาได้มาดเข้มและสวยดุถูกจริตเอามาก ๆ ใครที่อยากดูอนิเมะสไตล์ Fate***** ก็แนะนำให้ดูเรื่องนี้เพราะรู้สึกคุ้นเคยเอามาก ๆ
Keijo!!!!!!!!
อีกหนึ่งการ์ตูนกีฬาในซีซั่นนี้ที่ได้รับการดัดแปลงมาจากมังงะ ซึ่งตัวมังงะก็มีลิขสิทธิ์ในบ้านเราโดย Zenshu แถมช่วงนี้งานหนังสือลองไปหาชื้อมาอ่านดูได้นะ
Keijo กีฬาที่เป็นการต่อสู้บนน้ำโดยใช้นมและตูดในการอัด กระแทก และอื่น ๆ ทำให้คู่ต่อสู้ตกลงไปในน้ำ ซึ่งตัวกีฬานี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีเงินพนันมาเกี่ยวข้อง นั่นทำให้ Kaminashi Nozomi ที่สนใจในกีฬานี้ได้เข้ามาสู่วงการ Keijo โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นนักกีฬา Keijo ที่รวยที่สุดในญี่ปุ่น ฝันของ Nozomi จะเป็นจริงหรือไม่
อย่างที่บอกครับ “นมและตูด” ภายในเรื่องอุดมไปด้วยสองสิ่งนี้ทั้ง ๆ ที่เหมือนจะเป็นอนิเมะแนวเซอวิส แต่เปล่าเลย กลับเป็นการ์ตูนกีฬาสุดจริงจังโดยไม่สนหลักเหตุผลใด ๆ แถมท่าต่าง ๆ ก็ดูเว่อร์เอาเรื่อง ราวกับดู Inazuma Eleven แบบฉบับกีฬาริมน้ำเซ็กซี่แทน ซึ่งถ้าดูแบบไม่คิดจริงจังอะไรแล้ว จะเป็นอนิเมะที่สนุกมาก ในตอนแรกนี้ก็จะเป็นการแนะนำตัวละคร กึ่ง ๆ ย้อนเรื่องไปในช่วงของการทดสอบของ Nozomi ว่าทำไมมาตรงจุดนี้ได้ ซึ่งตัวบทของเรื่องก็อิงตามมังงะ ในส่วนของการกำกับ ฉากบู๊จัดว่าดี ทำออกมาได้มีพลังมาก ๆ ด้านคุณภาพงานยังจัดว่าตามมาตรฐาน ตัวละครวาดออกมาได้สวยน่ารักเซ็กซี่ ใครที่อ่านมังงะเรื่องนี้มาก็อยากจะแนะนำให้ดู ใครที่อยากดูการ์ตูนกีฬาที่สุดแสนจะจริงจังแต่ ดันขัดกับหลักความเป็นจริง เอามันส์เข้าว่าล่ะก็ เรื่องนี้เลยครับ
Girlish Number
อีกหนึ่งผลงานของ อ.Watari Wataru (Oregairu) วาดภาพประกอบโดย QP:flapper (MM!, Sora no Method) ที่ได้ถูกสร้างเป็นอนิเมะซึ่งในครั้งนี้จะเกี่ยวกับสาวนักพากย์กันล่ะ
โดยเรื่องนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ Chitose Karasuma นักพากย์หน้าใหม่ในวงการ ซึ่งภายเรื่องก็จะแสดงให้เห็นถึงวงการที่เธอเจอ ผู้คนต่าง ๆ เพื่อนร่วมงาน และเรื่องราวต่าง ๆ ที่เข้ามา และสุดท้าย Chitose จะขายออกในฐานะนักพากย์หรือไม่ ชีวิตของเธอในวงการนี้จะเป็นอย่างไรติดตามได้ใน Girlish Number
จัดว่าเป็นเรื่องที่น่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งในซีซั่นนี้เลยละ ด้วยการนำนักพากย์มาเป็นตัวละครหลักอย่าง New game หรือเรื่อง Shirobako ซึ่งภายในเรื่องก็อุดมไปด้วยมุกวงในของธุรกิจอนิเมะญี่ปุ่น โดยเป็นการจิกกัดผ่านตัวละครในเรื่องที่ทำงานอยู่ในวงการ แล้วก็ตีแผ่ด้านที่เราไม่เคยเห็นของนักพากย์หรือคนที่ทำงานข้างในออกมาผ่านตัวเอกสาว Chitose ส่วนด้านบทเรียกได้ว่าพูดคุยกันสนุกมาก เนื้อเรื่องก็ถูกจริตคออนิเมะที่ชื่นชอบนักพากย์กันมากทีเดียว งานภาพทำออกมาโดยรวมดูดีวาดสาว ๆ ได้น่ารักเก็บครบทุกช็อต จังหวะรับส่งมุขทำออกมาได้ลงตัวมาก อยากจะแนะนำให้กับทุกคนเลยสำหรับเรื่องนี้ ปล.Chitose จังน่ารักจริง ๆ
Touken Ranbu: Hanamaru
จากเกมยอดนิยมใน DDM มาสู่อนิเมชั่นที่หลาย ๆ คนรออย่างป่วยดาบซึ่งซีรีส์นี้จะแบ่งออกเป็น 2 ภาคคือ Touken Ranbu Hanamaru และ Touken ranbu ซึ่งจะเป็นภาคหลักนั่นเอง
โดยในภาคนี้จะกล่าวถึงปี ค.ศ. 2205 เหล่าดาบที่มีกายเนื้อและคงอยู่เพื่อต่อสู้กับศัตรูที่หวังที่จะเปลี่ยนแปลงอดีต ซึ่งเหล่าดาบก็จะข้ามไปในช่วงเวลาต่าง ๆ เพื่อหยุดศัตรูให้ได้ ซึ่งในภาคนี้จะเน้นไปที่การใช้ชีวิตของเหล่าดาบในที่พักและการออกปฏิบัติภารกิจปราบพวกศัตรู
เรียกได้ว่าทำการบ้านมาดีสำหรับเกมที่ดัดแปลงมาเป็นอนิเมะแบบนี้ สำหรับในภาคนี้ที่จะเน่นไปที่ความเฮฮาของตัวละครก็ยังใส่ปมรวมถึงความซีเรียสเอาไว้ เรียกได้ว่ามีครบรสเลยทีเดียว ดาบแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง ต้องบอกเลยว่าถอดแบบออดมาจากต้นฉบับได้ดีเลยล่ะ สำหรับเนื้อเรื่องในตอนแรกก็จะเน้นไปที่การแนะนำตัวละคร ลักษณะนิสัย และจบลงด้วยการต่อสู่ ซึ่งในฉากบู๊นั้นกำกับออกมาได้สนุก ด้านภาพถอดแบบมาจากเกมได้ตรง งานภาพจัดว่าดีค่อนกลาง ใครที่ชอบดาบก็อยากจะแนะนำให้ดูก่อนภาคหลักมาเป็นการรองท้องเลยล่ะ
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอนิเมะซีซั่นนี้ที่เราหยิบมาแนะนำกันเฉพาะตอนที่ 1 เท่านั้น ความเห็นบางประการอาจจะแตกต่างกับเพื่อน ๆ บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งก็สามารถมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเพจได้นะครับ
