สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคน พบกันอีกครั้งกับ Akibatan Review ที่จะมา Review อนิเมะฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น โดยจะเป็นการ Review จากตอนที่ 1 เท่านั้น หวังว่าจะช่วยเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาอนิเมะอยู่ให้การ Review นี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกชมกันสำหรับฤดูกาลนี้ ว่าแล้วก็เริ่มกันเลยดีกว่า
Busou Shoujo Machiavellianism
อนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะของ อ. Kurokami Yuuya (เรื่อง) และ อ. Kanzaki Karuna (ภาพ) เป็นเรื่องราวของ Nomura Fudou ชายผู้รักอิสระได้ย้ายเข้ามาในโรงเรียนที่อนุญาตให้นักเรียนหญิงพกอาวุธได้ โรงเรียนนี้อยู่ภายใต้การปกครองของ 5 นักดาบหญิงผู้เคร่งครัดในกฏระเบียบ การที่ Nomura จะได้มาซึ่งอิสรภาพของตัวเองนั้นก็หมายความว่าต้องเอาชนะ 5 นักดาบหญิงให้ได้ !
ตัวอนิเมะเล่าออกมาได้เข้าใจง่าย ดูสักพักก็สามารถเข้าใจโทนของเรื่องได้ทั้งหมด สำหรับตัวอนิเมะตอนที่ 1 เท่ากับตัวมังงะ 1 ตอนเลยพอดี ค่อนข้างน่าตกใจที่สามารถวางเส้นเรื่อง 25 นาทีแรกให้พอดีกับมังงะ 1 ตอนได้ งานภาพค่อนข้างพยายามทำให้ใกล้เคียงมังงะเรียกว่าทั้งมุมกล้องหรือฉากต่าง ๆ ทำออกมาเคารพต้นฉบับดี แต่ตัวคุณภาพอนิเมะในแง่ของแนวแอคชั่นในรั้วโรงเรียนยังทำออกมาไม่ได้ดีมากนัก เฟรมเรทค่อนข้างต่ำทำให้การเคลื่อนไหวไม่ไหลลื่น อีกทั้งคิวบู๊ก็ทำออกมาได้แข็งทื่อและไร้ความน่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม เนื้อเรื่องที่สื่อในแง่ว่านักเรียนหญิงใช้อาวุธเพื่อความปลอดภัยของตนเองกลายเป็นเรื่องปกติ จนมองข้ามความเป็นส่วนตัวของนักเรียนชายมากเกินไป แต่ตัวเอกได้แหกกรอบที่นักเรียนหญิงได้สร้างไว้ขึ้นมาจนดูมีประเด็นที่น่าติดตาม ซึ่งก็น่าสนใจว่าต่อไปตัวเอกจะทำอย่างไร ส่วนฝั่งนักเรียนหญิงหรือ 5 นักดาบจะทำอย่างไรถึงจะสามารถควบคุมพระเอกของเราได้
Alice to Zouroku
อนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะของ อ.IMAI Tetsuya โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Sana หญิงสาวที่มีพลังพิเศษที่สามารถทำให้จินตนาการให้กลายเป็นความจริงได้ ด้วยพลังของเธอนี้เอง จึงทำให้ถูกจับมาปล่อยให้อยู่ในสถาบันวิจัยลึกลับแห่งหนึ่ง โดยที่ไม่ได้พบเจอกับโลกภายนอกเลย วันหนึ่ง Sana ได้หนีออกมาจากสถาบันวิจัยและได้พบกับโลกกว้าง โลกที่เธอไม่เคยได้สัมผัส ตึกรามบ้านช่อง รวมไปถึง Kashimura Zouroku คุณตาเจ้าของร้านดอกไม้จอมหัวรั้นแสนใจดี และเรื่องราวในโลกภายนอกของ Sana ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
งานภาพทำออกมาหยาบ ๆ เพราะด้วยเวลาฉายที่เยอะทำให้ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมาก รวมไปถึงตัวละครที่ดีไซน์ออกมาไม่น่าดึงดูดสักเท่าไหร่นัก แต่ในบางฉากมีการใช้ 3DCG มาช่วย ซึ่งก็ถือว่าน่าสนใจดี สำหรับตอนแรกนี้ก็ปาเข้าไป 40 กว่านาที แถมยังมีการดำเนินเรื่องที่ช้าเอามาก ๆ และค่อย ๆ เฉลยภาพรวมของเรื่องซึ่งกว่าจะเข้าใจก็ปาเข้าไปเกือบจบตอนได้
ตัวเนื้อเรื่องเน้นไปการอบรมของคุณตาที่คอยสอนสั่งเรื่องต่าง ๆ ทั้งวัฒนธรรม การใช้ชีวิต หรือแนวความคิดที่ไม่ดี เช่นการที่ต้องขอความร่วมมือกับคนอื่น แต่กลับเอาข้อมูลส่วนตัวของคนที่ขอความร่วมมือมาพูดต่อหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควร แก่ Sana ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นแนว feel good ดูแล้วอิ่มเอิบใจ
Clockwork Planet
จากผลงานร่วมกันของ อ. HIMANA Tsubaki และ อ.KAMIYA Yuu (ผู้แต่งไลท์โนเวล No Game No Life) ที่ได้รับการนำมาดัดแปลงมาเป็นอนิเมชั่นโดยสตูดิโอ Xebec โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยกลไกของนาฬิกา ซึ่งเรียกกันว่า Clockwork Planet วันหนึ่งก็ได้มีกล่องสีดำลึกลับร่วงใส่บ้านของเด็กหนุ่มมัธยมที่มีประสาทหูที่ดีเข้าขั้นสุดยอดอยู่อย่าง Miura Naoto ซึ่งภายในหุ่นนั้นมี สาวน้อยออโตมาตาแสนสวยหลับไหลอยู่ ซึ่งนั่นก็เรื่องราวของทั้งสองที่ต้องตามหาสาวน้อยออโตมาตาตัวอื่น ในโลกที่ขึ้นอยู่กับฟันเฟืองกลไกได้เริ่มขึ้นแล้ว
สารภาพตามตรงว่าชอบไลท์โนเวลเรื่องนี้เอามาก ๆ (ลิขสิทธิ์โดย Luckpim) ซึ่งพอได้มาเป็นอนิเมะแบบนี้แล้วกลับทำให้ผิดหวังซะงั้น ต้องบอกว่าตัวเนื้อเรื่องมันสนุกจริงๆ เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่เดินทางตามหาสาวน้อยออโตมาตาคนที่เหลือ พร้อมกับช่วยเหลือโลกฟันเฟืองที่กำลังพังทลาย แต่ว่าด้วยคุณภาพของตัวอนิเมะที่ออกมากลับเข้าขั้นแย่ เพราะงานภาพที่ควรจะเป็นจุดเด่นกลับทำออมาได้แย่มาก ทั้งเฟรมเรท การขยับ รวมไปถึงคิวบู๊ต่างก็ทำออกมาได้ค่อนข้างแย่ คาแรคเตอร์ดีไซน์ที่ต้นฉบับทำออกมาได้สวยงามกลับโดนลดทอนความสวยงามลงอย่างน่าใจหาย แต่ตัวฉากรวมไปถึง 3DCG ที่ใส่เข้ามาทำออกมาค่อนข้างสวย ด้านการดำเนินเรื่องค่อนข้างกระชับ ost ของเรื่องทำออกมาได้มีอารมณ์ร่วมช่วยชดเชยด้านภาพได้นิดนึง เพลงเปิดเพลงปิดเพราะหมด จริง ๆ เรื่องนี้จะดีกว่านี้ถ้าแก้เรื่องภาพได้
Eromanga-sensei
จากอ. Tsukasa Fushimi ผู้เขียน Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai หรือในชื่อไทย “น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก” ที่เคยสร้างความร้าวฉานให้กับแฟน ๆ ชาวไทยกันไปแล้ว ในครั้งนี้เค้าก็กลับมาอีกทั้งกับเรื่องนี้ ที่ได้สตูดิโอเดิมพร้อมทีมงานเก่ายกชุดอย่าง A-1 Pictures นำผลงานของอาจารย์กลับมาอีกทั้ง โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Izumi Masamune นักเขียนนิยายเคยขายดี และ น้องสาวต่างสายเลือดที่เก็บตัวอยู่ในห้อง ผู้วาดภาพประกอบให้กับนิยายของ Izumi โดยใช้นามปากกาว่า Eromanga-sensei และเมื่อทั้งสองได้รู้ว่าต่างก็ทำงานให้กันนั้นและนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ตัวอนิเมะทำออกมาได้ดีมีมาตรฐาน ซึ่งการดำเนินเรื่องจริง ๆ ค่อนข้างเหมือนกับ Oreimo เอามาก ๆ ยกเว้นตัวละครกับพล็อตที่มีการดัดแปลงเล็กน้อย ถ้าจะให้บอกก็อาจจะเหมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะหลาย ๆ อย่างทั้งฉากเอย อะไรเอย ก็แทบจะเหมือนกับ Oreimo เลยล่ะ แต่ถ้าตัดความ cliche นิด ๆ ตรงส่วนนี้ไปก็ถือว่าเป็นอนิเมะที่มีคุณภาพ ทั้งในด้านภาพและการเล่าเรื่องที่ดัดแปลงมาจากต้นฉบับ เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นคอมเมดี้น่ารัก ๆ เรื่องหนึ่งที่อยากจะแนะนำให้ลองดูเลย
Frame Arms Girl
อนิเมะขายของเล่นของทาง Kotobukiya ที่เหมือนจะได้แรงบันดาลใจมาจาก Gundam Build Fighters (ฮา) ซึ่งอย่างที่บอกว่าเป็นอนิเมะขายของเล่น แต่ก็ไม่ได้ทำออกมายัดเยียดอะไรนัก ฉากขายตรงก็ทำออกมาได้น่ารักดีคือยัดมาทื่อ ๆ ไปเลย กลายเป็นฮาแทนซะงั้น
ตัวอนิเมะดำเนินเรื่องง่าย ไม่ซับซ้อน อธิบายโทนของเรื่องและตัวของ Frame Arms Girl ได้ไหลลื่นดี ไม่มองว่าเป็นการยัดเยียดมากไปนัก โทนเรื่องมาในแนวของสาวน้อยสดใสกับเหล่า Frame Arms Girl ด้านงานภาพทำออกมาได้สวยพอสมควร เพราะมีแต่ฉากในห้องกับนางเอก เลยไม่ต้องลงดีเทลอะไรเยอะมากนัก นอกจากนั้นก็มีใช้ 3DCG มามีส่วนในด้านของสาว ๆ Frame Arms Girl ซึ่งทำออกมาได้เนียนตาทีเดียว โดยรวมก็ถือว่าเป็นอนิเมะเนื้อหาเบา ๆ ดูได้เพลิน ๆ เลยล่ะ ยิ่งใครชอบฟีลลิ่งของเล่นสาวน้อยแบบนี้ อาจจะถูกใจก็ได้นะ
Granblue Fantasy The Animation
ขอต้อนรับสู่ Granblue Fantasy จากเกมสุดฮิตที่สูบเงินตราจากผู้เล่นอย่างเรา ๆ จนมีเงินถุงเงินถังมาสร้างอนิเมะเพื่อโปรโมทเกม โดยสตูดิโอ A-1 Pictures สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นการนำเนื้อเรื่องในเกมมาสร้าง โดยจะเกี่ยวกับโลกที่มีเกาะลอยฟ้าอยู่เต็มไปหมด อยู่มาวันหนึ่ง Gran พระเอกของเรื่องได้เข้าไปพัวพันกับ Lyria สาวน้อยปริศนาที่ตกลงมาจากเรือเหาะ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยของ Gran
ประทับใจกว่าที่คิดสำหรับเรื่องนี้ ส่วนตัวผู้เขียนกำลังเล่นเกมนี้อยู่ต้องบอกเลยว่าเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องที่สนุกมาก พอได้เห็นมาเป็นอนิเมะแบบภาพเคลื่อนไหวแบบนี้แล้วรู้สึกประทับใจ สำหรับตอนแรกดำเนินเรื่องได้กระชับและเข้าใจง่าย แม้ไม่ได้เล่นเกมมาก่อนแต่ก็สามารถเข้าใจได้ (เพราะบทตามในเกมเป๊ะ ๆ) ด้านภาพจัดว่าสวย แม้จะไม่สามารถใส่รายละเอียดของงานภาพให้สวยอลังมากเท่าในเกมได้ แต่ก็ยังเคารพไว้ซึ่งตัวต้นฉบับ ถึงจะแอบขัดตานิด ๆ ตรงเฟรมเรทที่ยังไม่เนียนละเอียดสะใจสมกับเป็นโปรเจคจากเกมดังรายได้สูงอย่างที่หวังมากนัก แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเช่นกันครับ
เอาจริง ๆ แล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้เล่นเกม ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะดูไม่รู้เรื่องหรือไม่อิน เพราะด้วยเนื้อหาแล้ว ถือว่าเป็นอนิเมะแฟนตาซีผจญภัยไปตามเกาะต่าง ๆ ที่น่าติดตามอีกเรื่องหนึ่งเลยนะ ถ้าชอบแนวผจญภัยแฟนตาซี ตัวละครหลากหลายแนว ก็น่าจะชอบกันได้ไม่ยาก เผลอ ๆ อาจจะอยากไปลองเล่นเกมดูกันด้วยซ้ำนะเออ
Re: Creators
อีกหนึ่งตัวเต็งของฤดูนี้กับทีมงานระดับพระกาฬอย่าง ผู้กำกับ Aoki Ei (Aldnoah.Zero, Fate/Zero) ที่ร่วมกันเขียนบทกับ อ.Hiroe Rei (Black Lagoon) รวมไปถึง Sawano Hiroyuki แต่งเพลงประกอบให้ โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตัวละครจากไลท์โนเวลหรือสื่อต่าง ๆ ทั้งมังงะ หรืออนิเมะ ได้มีตัวตนขึ้นจริง ๆ ในโลกแห่งความจริง ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องราวของ Mizushino Sota ที่ได้พบกับ Yupitilia Selestia ตัวละครที่ออกมาจากอนิเมะชื่อดัง Vogel Chavelier
ประทับใจมากกับอนิเมะเรื่องนี้ เพราะทั้งตัวบท งานภาพ ฉากต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ในระดับที่น่าประทับใจแทบทั้งสิ้น ถึงแม้สำหรับสตูดิโอ TROYCA งานภาพควรจะออกมาละเอียดมากกว่านี้ก็ตาม แต่โดยรวมแล้วยังเรียกได้ว่าสวย อีกทั้งคาแรคเตอดีไซน์ที่ทำออกมาได้มีเสน่ห์น่าติดตามกันหมดโดยเฉพาะ Selestia (อวย) ส่วนด้านเนื้อเรื่อง ต้องขอบอกเลยว่ายังไม่สามารถเดาทิศทางของเรื่องได้เลย เพราะทิ้งปมอันใหญ่ไว้ตั้งแต่แรก แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น ก็สามารถดูจบและเข้าใจโทนของเรื่องคร่าว ๆ ได้ ไม่ได้งงว่าอะไรยังไง เหมือนหลาย ๆ เรื่อง นอกจากนั้นฉากต่าง ทั้งคิวบู๊ต่างก็ออกมาดูดี แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของตัวละได้ดี อีกทั้งมีการเล่นมุมกล้องต่าง ๆ เช่นมุมมองผ่านแว่นตา (ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่) รวมไปถึง 3DCG ที่นำมาใช้ร่วมกัน เรียกได่ว่าจัดเต็มในตอนแรกพอสมควร สำหรับใครที่หาอนิเมะแอคชั่น อยากจะขอฝากเรื่องนี้ไว้ให้ได้ติดตามกัน
Rokudenashi Majutsu Koushi to Akashic Records
จากไลท์โนเวลชื่อดังที่ขายจนแทบจะเกลี้ยงงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา (สนพ.Phoenix) ที่ดัดแปลงมาเป็นอนิเมะภายใต้สตูดิโอ LIDEN FILMS โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Glenn Radars ชายผู้ปวกเปียกที่ต้องไปเป็นอาจารย์สอนเวทมนตร์ในโรงเรียนแห่งหนึ่งและได้พบเจอกับ Fibel Sistine และ Tingel Rumia ลูกศิษย์ที่เค้าจะต้องสอนและนี่ก็คือเรื่องราวของชายผู้ไม่เอาไหนและลูกศิษย์แสนน่ารัก ?
จัดว่าเป็นอนิเมะที่เหมือนจะมาในรูปแบบฮาเร็ม ? ที่แตกต่างไปจากหลาย ๆ เรื่อง เพราะด้วยพระเอกที่แหกคอกไปจากพระเอกอนิเมะแนวฮาเร็มทั่ว ๆ ไป อีกทั้งบทบาทที่กลายมาเป็นอาจารย์ผู้สอนด้วยแล้ว ทำให้น่าสนใจขึ้นไปอีก ในด้านของบทเรียกว่ากระชับมาก หลายอย่างตัดทอนไปจากตัวไลท์โนเวล แต่ไม่ได้ทำให้อรรถรสเสียไปสักเท่าไหร่นัก สำหรับใครที่พึ่งดูอยากจะให้อดทนดูไปจนถึงตอนที่ 2 หรือตอนที่ 3 เพราะจะเริ่มสนุกขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น เพราะฉะนั้นในตอนนี้ต้องบอกเลยว่า ขอให้อดทนกับพระเอกไปก่อน ฮา นอกจากตัวบทแล้วงานภาพออกมากลาง ๆ เน้นไปที่สองสาวเสียมาก ซึ่งทำออกมาได้น่ารักทั้งคู่ ตรงจุดนี้เรียกได้ว่าเคารพต้นฉบับได้ดี ก็เรียกได้ว่าเป็นฮาเร็ม ? คอมเมดี้ในรั้วโรงเรียนที่ดูเพลิน ๆ ได้อีกเรื่อง
Sagrada Reset
อนิเมะจากไลท์โนเวลอีกหนึ่งเรื่องในฤดูกาลนี้ ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ตัวไลท์โนเวลก็มีลิขสิทธิ์ในไทยในชื่อ ซากุราดะ รีเช็ต ภารกิจฆ่าเวลา โดย สนพ. Enter book โดยสำหรับเรื่องราวของเรี่องนี้มีอยู่ว่า เมืองซากุราดะ เมืองที่มีผู้ที่มีพลังพิเศษอาศัยอยู่เกินกว่าครึ่ง ซึ่งความพิเศษของเมืองนี้อยู่ที่ถ้าออกจากเมืองไปก็จะลืมเรื่องพลังพิเศษไปจนหมด นั่นทำให้สามารถใช้พลังได้แค่ในเมืองซากุราดะเท่านั้นซึ่ง Asai Kei ชายผู้ที่มีพลังพิเศษที่สามารถจำเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ กับ Haruki Misora หญิงสาวที่มีพลังที่สามารถ “รีเช็ต” ที่ย้อนเวลากลับไปได้ 3 วันแต่จะไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ และแล้วการจับคู่กันของสองความสามารถสุดยอดเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้เริ่มขึ้นแล้ว
หลังจากที่ดูแล้วรู้สึกเฉย ๆ มาก ทั้งงานภาพเอย ตัวบทเอย เรียกได้ว่าเป็นอนิเมะทั่วไปเลยก็ว่าได้ แต่ว่าถ้าไม่ได้ขายคาแรคเตอร์หรืองานภาพแล้ว ก็คงจะเน้นไปที่ตัวเนื้อเรื่อง ซึ่งต้องบอกว่าโทนของเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ กลุ่มวัยรุ่นที่ใช้พลังพิเศษเพื่อช่วยเหลือคนอื่น แต่สำหรับอนิเมะแล้วค่อนข้างมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้า ตัวหนังพยายามที่จะสื่อในประเด็นของการมีพลังพิเศษ การนำไปใช้ เหตุผลของตัวละครที่มีต่อพลังพิเศษนั้น งานภาพก็ไม่ได้ดีอะไรมากนักกลาง ๆ ค่อนไปทางล่าง ตัวละครดีไซน์มาก็ไม่ค่อยน่าดึงดูดสักเท่าไหร่ เรียกว่าน่าจะเป็นอนิเมะที่ทำมาโปรโมทตัวนิยายและภาพยนตร์คนแสงเสียมากกว่า แต่ถ้าใครชอบแนว ๆ พลังพิเศษในรั้วโรงเรียน ปริศนา ก็ขอเชิญชม
Sakura Quest
ออริจินอลอนิเมะจากทาง P.A. Works โดยเป็นเรื่องงราวเกี่ยวกับสาวตกงานชื่อ Koharu Yoshino ที่ต้องกลายมาเป็นราชีนีของเมือง Manoyma เพื่อทำให้คนกลับมาท่องเที่ยวที่เมืองอีกครั้ง ซึ่งนี่ก็เป็นการกลับมาของ P.A. Works ที่รู้สึกว่ามาถูกทางแล้วสำหรับการทำอนิเมะสาว ๆ แบบนี้ เพราะส่วนตัวแล้วรู้สึกประทับใจกับผลงานอย่าง SHIROBAKO และ Hanasaku Iroha เอามาก ๆ พอกลับมาทำแนวนี้อีกครั้งก็รู้สึกดีใจจริง ๆ และเรื่องนี้ยังถือเป็นหนึ่งในโปรเจ็ค “อนิเมเกี่ยวกับการทำงาน” ที่นับรวมกับ SHIROBAKO (สตูดิโอผลิตอนิเมชั่น) และ Hanasaku Iroha (พนักงานโรงแรมบ่อน้ำร้อน) ซึ่งเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับองค์กรพัฒนาชนบทด้วยการท่องเที่ยวนั่นเอง
น่าจะเรียกได้ว่าไม่ผิดหวังกับเรื่องนี้เลย ตอบสนองความคาดหวังได้ดีมาก ๆ ทั้งบทรวมไปถึงงานภาพทำออกมาน่าประทับใจดี ทำให้เผลอมีอารมณ์ร่วมให้เอาใจช่วย Koharu เข้าจริง ๆ และจากที่ดูเหมือนจะดำเนินเรื่องได้ช้า แต่พอดูจริง ๆ เวลาไหลผ่านไปเร็วมาก อีกทั้งงานภาพเรียกได้ว่าสมกับเป็น P.A. เพราะมาตรฐานค่อนข้างดี และน่าจะดีแบบนี้ได้จนจบ ตัวหนังเล่นประเด็นการฟื้นฟูเมืองร้าง บวกกับตัว Koharu ที่น่ารักด้วยคาแรคเตอร์ของเธอ เรียกได้ว่าตามกันยาว ๆ สำหรับเรื่องนี้
สนุก !!!! คือตัวหนังเล่นประเด็นเรื่องการฟื้นฟูเมือง โดยคนที่ไม่ชอบบ้านนอกอย่าง Koharu ซึ่งพอมองแบบนี้มันจะทำให้เราได้เห็นมุมของการนำคนนอกที่มองเห็นถึงปัญญาได้ว่าเพราะอะไรคนถึงไม่มากัน แต่นั่นก็น่าจะเป็นเรื่องราวในตอนหลัง ๆ (คาดเดา) โดยสำหรับตอนแรกจะอยู่ที่เรื่องราวของการที่ Koharu มาที่ Manoyama ซึ่งตอนในตอนแรกเหมือนจะมีการดำเนินเรื่องที่ช้า น่าเบื่อ แต่พอเอาเข้าจริง กลายเป็นว่าดูไปดูมาจบตอนแล้ว เพราะทั้งตัวของ Koharu ที่ออกแบบมาได้น่ารัก และน่าเอาใจช่วย รวมไปถึงพล็อตการฟื้นฟูเมืองทำให้เรื่องนี้น่าติดตามเอามาก ๆ อีกทั้งงานภาพที่ทำออกมาได้มีมาตรฐานตามสไตล์ P.A. (ให้นึกถึง SHIROBAKO ) เรียกได้ว่าถ้าใครชอบในงานของค่ายนี้ ขอแนะนำจริง ๆ ไม่ผิดหวัง
Tsugumomo
จากมังงะของ อ. Yoshikadu Hamada มาเป็นอนิเมะทีวีซีรีส์โดยสตูดิโอน้องใหม่อย่าง Zero-G ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็มีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดย สนพ. Zenshu (สนุกมาก หาชื้ออ่านกันได้เลย) โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับ Kagami Kazuya นักเรียนมัธยมที่ได้พบเจอกับ Kiriha ที่เป็น Tsukumogami (เทวดาที่สิงอยู่ตามสิ่งของ) ผู้ที่อาศัยอยู่ในโอบิลายซากุระ อันเป็นของดูต่างหน้าแม่ ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวชวนปวดหัวที่ Kazuya ต้องได้พบเจอ
สำหรับเรื่องนี้ต้องบอกเลยว่า ตัวต้นฉบับอย่างมังงะนั้นทำออกมาได้ดีมาก ๆ ซึ่งพอมันกลายเป็นอนิเมะมันเลยมีข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง ทั้งงบประมาณเอย หรือ กำลังคนในการทำเอย มันเลยออกมาเป็นงานที่ไม่สุด สำหรับตัวอนิเมะทำออกมาเคารพต้นฉบับดี คาแรคเตอร์ดีไซน์ออกมาเหมือนต้นฉบับมาก รวมไปถึงการดำเนินเรื่อง ที่ตามต้นฉบับเป๊ะ ๆ สำหรับใครที่อ่านมังงะมาแล้วอาจจะผิดหวังกันเล็กน้อย แต่ถ้าใครไม่เคยอ่านฉบับมังงะมาก่อน ก็อยากจะแนะนำเรื่องนี้ให้ได้ดูกัน เพราะมันผสมระหว่างเซอวิส ตลกโปกฮา และแอคชั่นได้ลงตัวมาก
Shuumatsu Nani Shitemasuka Isogashii Desuka Sukutte Moratte Ii Desuka
จากไลท์โนเวลของ อ. Kareno Akira ที่ได้กลายมาเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ C2C และ Satelight ในซีซั่นนี้ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเมื่อ 500 ปี หลังจากมนุษย์สูญพันธ์จาก “บีสต์” ผู้เหลือรอดได้อพยพขึ้นไปอาศัยอยู่บนเกาะลอยฟ้า แต่ก็ยังถูกเหล่าบีสต์จ้องทำร้ายอยู่เรื่อยๆ มีเพียง Leprechauns กลุ่มเด็กสาวผู้ใช้อาวุธโบราณเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับบีสต์ได้ ในขณะที่ความตายสามารถมาเยือนได้ทุกเมื่อ ชายหนุ่มผู้สูญเสียทุกสิ่งเมื่อ 500 ปีก่อน มนุษย์คนสุดท้ายที่ถูกจองจำอยู่ในแท่งน้ำแข็งได้ตื่นขึ้น (เรื่องย่อจากไลท์โนเวล) ซึ่งก็มีลิขสิทธิ์โดยสนพ. Phoenix นั่นเองจ้า
สำหรับเรื่องนี้ก็เป็นอนิเมะที่ชื่อเรื่องยาวมากกกกกก (ฮา) สำหรับเรื่องนี้ตอนแรกยังไม่บอกอะไรเท่าไหร่นัก โดยรวม ๆ แล้วเป็นการเปิดเรื่องและแนะนำตัวละคร ซึ่งดูจากโทนของเรื่องแล้ว น่าจะตับสลายกันพอสมควรสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งก็น่าติดตามดูว่าจะหยิบยกประเด็นที่นำเด็กมาเป็นอาวุธได้ยังไงและจุดจบของเรื่องจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะพระเอกของเรา Kmetsch Willem ที่น่าติดตามในพัฒนาการของตัวละครตัวนี้มาก ๆ ด้านงานภาพทำออกมาค่อนข้างมีมาตรฐาน ไม่ได้ดีเกินไปและไม่ได้แย่เกินไป ชอบลูกเล่นในการใส่ OP ไปพร้อมกับการดำเนินเรื่องในช่วงแรกมากดูมีชีวิตชีวาเอามาก ๆ สำหรับเรื่องนี้ในช่วงแรก ๆ อาจจะยังตอบอะไรไม่ได้มากเท่าไหร่นักต้องรอติดตามกันต่อยาว ๆ
