เมื่อวันที่ศุกร์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา รักษาการนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzou Abe ได้ประกาศ ณ ที่ประชุมของสำนักพระราชวัง
จากกรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ์ Akihito เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา สำนักพระราชวังยังคงไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน จนกระทั่งเดือนสิงหาคมในปีเดียวกัน ได้มี video message ที่องค์จักรพรรดิ์ได้ประกาศที่จะสละราชสมบัติด้วยพระองค์เอง
ในวันที่ 1 ธันวาคม 2017 เวลา 09:46 นาฬิกา สมาชิกสภาสำนักพระราชวังทั้ง 10 ได้มาร่วมงานแถลงข่าวพิเศษที่สำนักพระราชวัง ซึ่งภายในงาน รักษาการนายกรัฐมนตรี Shinzou Abe ได้รับฟังความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการกำหนดวันสละราชสมบัติ และสรุปได้ว่าจะมีการกำหนดวันสละราชสมบัติ ในวันที่ 30 เมษายน 2019 หรือในอีก 2 ปีข้างหน้านี่เอง
ภายในงานประชุมดังกล่าวมีสมาชิกราชวงศ์ สมาชิกสภาระดับสูง สมาชิกสำนักพระราชวัง และรัฐบาลญี่ปุ่นได้รับร่างกฎหมายพิเศษนี้ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อเปิดช่องทางให้องค์จักรพรรดิ์สามารถสละราชสมบัติได้ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ มีมกุฎราชกุมาร Hironomiya Naruhito เป็นผู้ลงพระปรมาภิไธย และเป็นพิธีการเพียงครั้งเดียวที่จะเกิดขึ้นในยุคนี้
พระบรมฉายาลักษณ์ ของจักรพรรดิ์ Naruhito กับพระวรชายา Misako และพระราชธิดา Aiko
การสละราชสมบัติครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้น ในเกือบรอบ 2 ศตวรรษ และนับเป็นจุดสิ้นสุดของยุคปัจจุบัน นั่นคือยุค Heisei (เฮย์เซย์) ที่มีระยะเวลามากว่า 29 ปี นับจากการสวรรคตของจักรพรรดิ์ Hirohito เมื่อปี 1989 ซึ่งคำว่ายุคเฮย์เซย์นี้ เราก็คงจะคุ้นเคยกันอยู่บ่อย ๆ จากสื่อญี่ปุ่นรวมไปถึงการ์ตูน เช่นการเรียก คุโด้ ชินอิจิ จาก โคนัน ว่าเป็นยอดนักสืบหนุ่มยุคเฮย์เซย์ หรือการแบ่งยุคซีรี่ส์มาสค์ไรเดอร์ระหว่างยุคโชวะกับเฮย์เซย์ รวมไปถึงก็อดซิลล่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
นั่นหมายถึงว่า อีกไม่นาน คำว่ายุคเฮย์เซย์นั้น อาจกลายเป็น “ของเก่า” ไปเสียแล้วเช่นกัน
โดยหลังจากการสละราชสมบัติของจักรพรรดิ์ Akihito แล้ว มกุฎราชกุมาร Naruhito ในพระชนมายุ 57 พรรษา จะขึ้นครองราชย์ต่อในวันที่ 1 พฤษภาคม 2019 สำหรับชื่อยุคใหม่นั้น จะมีการประกาศในช่วงฤดูร้อนปีหน้าครับ
Source: Mainichi Shimbun via RocketNews24