ถ้าหากพูดถึงเรื่องราวของการ์ตูนแนวสยองขวัญ เชื่อว่าแฟนการ์ตูนน้อยคนนักที่จะไม่เคยได้ยินชื่อของสุดยอดนักเขียนการ์ตูนท่านนี้ อาจารย์ Ito Junji ผู้มีผลงานการ์ตูนแนวสยองขวัญออกมามากมาย ในครั้งนี้ทีมงาน Akibatan จะขอพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับอาจารย์ Ito Junji กันให้แบบเต็มที่ในทุก ๆ ผลงาน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันเลยครับ
Ito Junji (伊藤 潤二) เป็นนักเขียนผู้มีถิ่นกำเนิดในจังหวัด Gifu เขาเกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 1963 เขาได้รับแรงบันดาลใจในการวาดการ์ตูนในวัยเด็กจากภาพวาดของพี่สาว นอกจากนี้เขาก็ยังชื่นชอบและติดตามผลงานของ อาจารย์ Umezu Kazuo อีกด้วย Ito Junji เริ่มวาดการ์ตูนเป็นงานอดิเรกในช่วงที่เขาทำงานเป็นช่างทันตกรรมในช่วงต้นยุค 90’s โดยเขาได้ลองเขียนเรื่องสั้นส่งไปประกวดกับ Gekkan Halloween ซึ่งผลงานชิ้นนั้นก็ได้รับรางวัลในงาน Kazuo Umezu Prize (ซึ่งในครั้งนั้น อาจารย์ Umezu ก็ได้ให้เกียรติมาเป็นผู้ตัดสินเองด้วย)
Ito Junji ได้เริ่มวาดผลงานการ์ตูนแนวสยองขวัญอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วในเวลาไม่นานนัก ผลงานเปิดตัวของเขาที่รู้จักและมีชื่อเสียงอย่าง Tomie (富江) ได้ตีพิมพ์เล่มแรกเมื่อปี 1987 และเล่มสุดท้ายเมื่อปี 2010 รวมทั้งหมด 3 เล่มจบ, Usumaki หรือ ก้นหอยมรณะ (うずまき) ตีพิมพ์เมื่อปี 1998 จนถึงปี 1999 รวมทั้งหมด 3 เล่มจบ และ Gyo หรือ ปลามรณะ” (ギョ) ตีพิมพ์เมื่อปี 2001 จนถึง 2002 รวมทั้งหมด 2 เล่มจบ ซึ่งในบ้านเราสามเรื่องนี้ก็ได้ตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์โดยรักพิมพ์ สำหรับ Tomie และ เนชั่น NED สำหรับ ก้นหอยมรณะ และ ปลามรณะ
ผลงานของอาจารย์ Ito Junji
Ito Junji Kessakushu (伊藤潤二恐怖漫畫選集)
รวมผลงานการ์ตูนแนวสยองขวัญของอาจารย์ Ito Junji ที่บ้านเรารู้จักกันในชื่อ คลังสยอง ซึ่งตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์ การ์ตูนชุดนี้เริ่มออกตีพิมพ์ในญี่ปุ่นครั้งแรกในช่วงฮาโลวีนปี 1997 จนถึงปี 1999 มีทั้งหมด 16 เล่ม โดยในแต่ละเล่มนั้นก็จะเป็นบทต่าง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยยกเว้นแค่เล่ม 1 และเล่ม 2 เท่านั้นที่เป็นของเรื่อง Tomie บทแรกและบทหลัง ผลงานชุดคลังสยองทั้ง 16 บทมีดังนี้
Volume 1 and 2: Tomie (富江)
Volume 3: Nikuiro no Kai (肉色の怪)
Volume 4: Kao dorobou (顔泥棒)
Volume 5: Souichi no Tanoshi i Nikki (双一の楽しい日記 )
Volume 6: Souichi no Noroi i Nikki (双一の呪い日記)
Volume 7: Namekuji no shoujo (なめくじの少女)
Volume 8: Blood-bubble Bushes (血玉樹)
Volume 9: Kubi gensou (首幻想)
Volume 10: Michi no nai machi (あやつりの屋敷)
Volume 11: The Town Without Streets (道のない街)
Volume 12: Ijimetsu musume (いじめっ娘)
Volume 13: Circus ga kita (サーカスが来た)
Volume 14: Tunnel no kitan (トンネルの奇譚)
Volume 15: Shi bito no koiwazurai (死びとの恋わずらい)
Volume 16: Frankenstein (フランケンシュタイン)
ผลงานตีพิมพ์ชุดนี้ เป็นชุดที่มีความหลากหลายของผลงานมากที่สุด เพราะถ้าไม่นับเฉพาะตอนของโทมิเอะ ส่วนที่เหลือนั้นเป็นผลงานตอนสั้นจบในตอนเดียว ซึ่งหลายตอนนั้นไอเดียบรรเจิดมาก เช่นเมืองไร้ถนน ที่ทุกบ้านนั้นทำทางเชื่อมต่อกันหมดจนเป็นเหมือนอาคารขนาดยักษ์ หรือตอนฝันยาว ที่กล่าวถึงการฝันถึงเหตุการณ์ยาวนานนับปี แต่เมื่อตื่นมาพบว่าผ่านไปแค่ข้ามคืนเดียว จนทำให้บางครั้งตื่นขึ้นมาก็จำอะไรในโลกจริงไม่ได้เลยเพราะใช้ชีวิตในฝันไปหลายสิบปี เป็นต้น หรือบางเรื่องก็เป็นตอนยาวที่หลายคนรู้จักกันอย่าง “รักที่ทรมานของคนตาย” (ชายหนุ่มที่สี่แยก) จึงนับว่าคุ้มค่ามาก สำหรับคนที่เป็นแฟนผลงาน หรือถ้าอยากรู้จักกลิ่นอายผลงาน อ.จุนจิ แบบแท้ ๆ ก็แนะนำหนังสือชุดนี้ครับ
Kyoufu Hakubutsukan (恐怖博物館)
ผลงานชุดนี้เป็นการรวบรวมเอาการ์ตูนสยองขวัญที่ขายดีและมีชื่อเสียงสุด ๆ ของอาจารย์ Ito Junji มารวบรวมเป็นคอเล็คชั่นอีกครั้งโดยสำนักพิมพ์ Asahi Sonorama ซึ่งได้พิมพ์ออกมาทั้งหมด 10 เล่มจบ โดยในแต่ละเล่มนั้นก็จะเป็นบทต่าง ๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยยกเว้นแค่เล่ม 1 และเล่ม 2 เท่านั้นที่เป็นของเรื่อง Tomie บทแรกและบทหลัง ผลงานชุดพิพิธภัณฑ์สยองทั้ง 10 บทมีดังนี้
Volume 1 and 2: Tomie (富江)
Volume 3: Yaneura no nagai kami (屋根裏の長い髪)
Volume 4: Kakashi (案山子)
Volume 5: Rojiura (路地裏)
Volume 6: Sōichi no katte na noroi (双一の勝手な呪い)
Volume 7: Umeku haisuikan (うめく配水管)
Volume 8: Shirosunamura chitan (白砂村血譚)
Volume 9: Oshikiri idan (押切異談&フランケンシュタイン)
Volume 10: Shibito no Koi Wazurai (死びとの恋わずらい)
ซีรี่ส์นี้จะคล้าย ๆ เซ็ต 16 เล่มด้านบน แต่จะมีการแบ่งเล่มและแบ่งตอนไม่เหมือนกัน เพียงแต่ถ้าหากใครที่สะสมเซ็ต 16 เล่มแล้ว ก็ถือว่าได้สะสมเซ็ต 10 เล่มนี้ครบไปแล้วด้วยเช่นกันครับ
Uzumaki (うずまき)
Uzumaki หรือ ก้นหอยมรณะ เป็นการ์ตูนชื่อดังอีกเรื่องหนึ่งของอาจารย์ Ito Junji ซึ่งในบ้านเรา เรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ถูกสาปด้วยคำสาปแห่ง “ก้นหอย” ทำให้มีสัญลักษณ์คล้าย ๆ กับก้นหอยอยู่ในหมู่บ้านนี้เต็มไปหมด และทำให้เกิดเรื่องราวแปลก ๆ มากมายขึ้นในหมู่บ้านนี้ เรื่องนี้มีความยาว 3 เล่มจบ
ในความเห็นของทีมงาน ผลงานชิ้นนี้เป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอาจารย์ ด้วยการถ่ายทอดจินตนาการเกี่ยวกับคำสาปก้นหอยออกมาได้อย่างหลากหลาย จากเรื่องเล็ก ๆ ลามไปจนถึงเรื่องที่กว้างใหญ่และดูน่าทึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นผลงานที่ทีมงานมีความเห็นว่า ไอเดียหลาย ๆ ส่วนของอาจารย์นั้น แม้จะดูพิลึกกึกกือจนน่าสยดสยอง แต่มันก็มีความ “เพี้ยน” สอดแทรกอยู่ที่ทำให้ชวนขบขันแบบตลกร้ายที่ขำไม่ออกอย่างเช่น เส้นผมโดนคำสาปก้นหอยและเอามาใช้ต่อสู้กันได้ หรือ คนขี้เกียจและทำอะไรเชื่องช้าจนกลายเป็นหอยทากไปเสียเอง เป็นต้น
Gyo (ギョ)
Gyo หรือ ปลามรณะ เป็นผลงานชื่อดังอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงไปทั่ว ด้วยพล๊อตเรื่องที่น่าสนใจคือ ถ้าหากวันหนึ่ง ซากสิ่งมีชีวิตใต้น้ำเกิดมีขาขึ้นมาและบุกขึ้นมาบนพื้นโลกจะเกิดอะไรขึ้น พวกมันสร้างความสยดสยองมากมายทั้งกินคน ฆ่าคน บุกยึดเมืองต่าง ๆ ไม่รู้ว่าพวกมันมาจากไหน ใครสร้างมันขึ้นมา แต่ที่รู้ ๆ คือมันกลายเป็นหายนะของโลกไปแล้ว ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้มีความยาวทั้งหมด 2 เล่มจบ ในบ้านเราเรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่นเช่นกัน
สำหรับมุมมองของทีมงาน เรื่องนี้ไม่เพียงแค่ไอเดียที่ชวนสยดสยองแล้วนั้น ฝีมือในการวาดของอาจารย์ยังถูกแสดงออกมาได้เต็มที่อย่างมากในผลงานชิ้นนี้ ตามท้องเรื่องได้ระบุว่า ปลามีขาน่ากลัวเหล่านั้น ปล่อยแก๊สกลิ่นเหม็นออกมาแพร่เชื้อ ซึ่งแน่นอนว่าอ่านจากหนังสือ เราจะได้เห็นแต่ภาพ แต่ว่ายิ่งอ่าน ๆ ไป เรากลับรู้สึกได้ว่าแค่มองภาพบรรยากาศในเรื่อง ก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอันน่าสยองโดยไม่รู้ตัวไปเสียแล้ว
Neko Nikki Yon to Muu (猫日記 よん&むー)
ใช่ว่าอาจารย์ Ito Junji จะเขียนแต่การ์ตูนสยองขวัญแล้วดังเท่านั้น ผลงานเรื่อง Neko Nikki Yon to Muu หรือในบ้านเรารู้จักกันในชื่อ บันทึกน้องเหมียวของ อิโต้ จุนจิ ความยาวเล่มเดียวจบ เรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค
เรื่องนี้ก็เป็นการ์ตูนแนวน่ารัก ๆ ที่พูดถึงแมวของอาจารย์ J ที่ชื่อว่า Yon และ Muu ดูเผิน ๆ แล้วมันก็ดูออกจะน่ารักอยู่ แต่ด้วยลายเส้นของอาจารย์ Ito Junji ดันทำให้บางมุมของมันแอบหลอนอยู่บ้าง แถมยังตลกแบบแปลก ๆ
และเรื่องนี้ก็ได้ทำให้เราเห็นว่า อาจารย์ Ito Junji เองก็แอบสอดแทรกความน่ารักและอารมณ์ขันลงไปในการ์ตูนของเขาเช่นกัน ใช่ว่าจะมีแต่ความสยองขวัญเพียงอย่างเดียว ซึ่งอารมณณ์ขันของอาจารย์นั้นได้สอดแทรกลงไปในการ์ตูนทุกเรื่องที่แกเขียน แม้มันจะเป็นการ์ตูนสยองขวัญก็ตาม หากลองสังเกตดูดีๆ แล้วมันก็มีมุมฮา ๆ อยู่เหมือนกัน ไม่เชื่อก็ลองดูน้องแมวสองตัวนี้เป็นตัวอย่างก็ได้
Black Paradox (ブラックパラドクス)
ผลงานแนวสยองขวัญเล่มเดียวจบที่พูดถึงเรื่องราวของเว็บไซต์ที่ชักชวนให้คนมาฆ่าตัวตาย ซึ่งตัวเอกทั้ง 4 คนก็ได้มานัดเจอกันและทำการฆ่าตัวตายหมู่ แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ เพราะได้พบกับเหตุการณ์ประหลาดที่ทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตลุกลามไปจนถึงระดับโลก ซึ่งเป็นพล๊อตเรื่องที่สนุกและหักมุมแบบสุด ๆ จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของคนที่อยากตายเพียงแค่ 4 คนดันกลายเป็นวิกฤตของมนุษยชาติไปซะอย่างนั้น… ในบ้านเรา เรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น ใช้ชื่อว่า Black Paradox เว็บไซต์มรณะ ครับ
ทีมงานมีความเห็นว่า ผลงานเรื่องนี้แม้จะเผยแพร่ภายหลังและไม่เป็นกระแสมากเท่าช่วงก้นหอยมรณะหรือปลามรณะ แต่เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่แสดงพลังในการเล่าเรื่องของผู้เขียนได้ดีมาก จากที่เล่าไว้ว่า เรื่องนี้ช่วงแรกเกี่ยวกับการนัดฆ่าตัวตายหมู่ของตัวเอก 4 คน แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป ก็มีการพบอะไรแปลก ๆ เข้า แล้วเรื่องก็หักมุมเดินต่อไปอีกทางในแบบที่คาดไม่ถึง และเมื่อเรื่องถึงจุดหักเหใหม่ มันก็หักต่อไปอีกในทางที่เราไม่คาดคิดมาก่อน ตลอดทั้งเล่มของ Black Paradox จึงเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยเซอร์ไพรส์ที่น่าทึ่งเสียยิ่งกว่าความสยดสยองเสียอีก
Hellstar Remina (地獄星レミナ)
การ์ตูนแนวไซไฟ(?) ที่มีความสยองขวัญและความไร้เหตุผลของมนุษย์เป็นตัวขับดัน เรื่องราวของ นักดาราศาสตร์ที่ได้บังเอิญพบดาวเรืองแสงดวงใหม่ เลยตั้งชื่อว่าดาวนั้นว่า Remina ตามชื่อลูกสาวของตนเอง ทว่า 16 ปีต่อมา ดาวดวงนั้นกลับเข้ามาใกล้โลกมากขึ้นเรื่อย ๆ และระหว่างที่มันกำลังตรงมาหาโลกนั้น มันก็ได้กลืนกินดาวระหว่างทางจนหมด ทำให้คนทั้งโลกพากันคิดว่า เป็นเพราะเด็กสาว Remina เป็นต้นเหตุที่ดึงดาวดวงนั้นนั้นมากยังโลก เลยพากันก่อการจราจลไล่ล่าเด็กสาวที่ชื่อ Remina ที่เป็นลูกสาวของนักดาราศาสตร์คนนั้นมาบูชายัญให้ได้
แม้หัวเรื่องจะดูเป็นไซไฟ แต่มันกลับแฝงแง่คิดเรื่องความเชื่อต่าง ๆ และความดิบเถื่อนในกมลสันดานของมนุษย์เอาไว้ได้อย่างแยบยล ในบ้านเรา เรื่องนี้ก็ได้รับการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์เนชั่น ใช้ชื่อว่า ดาวมรณะเรมิน่า ความยาวเล่มเดียวจบครับ
Yami no Koe (闇の声)
เรื่องนี้เป็นผลงานรวมเรื่องสั้นแนวสยองขวัญของอาจารย์ Ito Junji มีทั้งหมด 14 เรื่องด้วยกัน โดยในครั้งแรกที่มีการตีพิมพ์นั้น Yami no Koe เดิมทีมี 7 ตอน วางจำหน่ายครั้งแรก 12 กันยายน ปี 2003 ต่อมา สนพ.Asahi ก็ได้ตีพิมพ์ Yami no Koe อี
Mimi’s Ghost Stories (ミミの怪談)
การ์ตูนเรื่องสั้นเล่มเดียวจบที่พูดถึงเรื่องราวของเด็กสาวที่ชื่อว่า Mimi ซึ่งเธอนั้นสามารถมองเห็นผีได้ เรื่องนี้ก็ได้บ อกเล่าการพบเจอกับผีหรือเรื่องลี้ลับสยองขวัญในแบบต่าง ๆ ที่ Mimi ได้ประสบพบเจอมานั่นเอง เรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทยฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิค ใช้ชื่อว่า มิมิ คนเห็นผี ครับ ปัจจุบันไม่มีการพิมพ์เพิ่ม หาซื้อได้ยากมากครับ
เป็นผลงานเล่มเดียวจบที่อาจจะไม่ได้มีอะไรน่าสะพรึงมากระดับปลามรณะหรือเว็บไซต์มรณะ แต่ซีรี่ส์มิมินั้น เป็นซีรี่ส์จบในตอนที่มีชั้นเชิงในการเขียนที่ดี หลายตอนไม่ได้นำเสนอภาพที่น่ากลัวมากนัก แต่กลับเขียนแบบอ้อม ๆ โดยการสร้างบรรยากาศและเลือกมุมในการนำเสนอที่ดูลึกลับน่าขนลุก อย่างเช่นตอนจุดวงสีแดงบนกำแพง เป็นต้น
Rasputin the Patriot (憂国のラスプーチン)
เรื่องราวการเมืองที่เข้มข้นปนสยองขวัญนิด ๆ (?) ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของอาจารย์ Ito Junji ที่ไม่ใช่ว่าจะเขียนแต่เรื่องแนวสยองขวัญได้เพียงแนวเดียวเท่านั้น เรื่องนี้ดำเนินเรื่องด้วยการเมืองแบบเข้มข้นและสอดแทรกความเหี้ยมโหดในจิตใจของมนุษย์ลงไปสะท้อนให้เห็นถึงความเลวทรามของมนุษย์มากยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับเรื่องนี้ยังไม่มีฉบับลิขสิทธิ์ในประเทศไทยครับ
เพราะด้วยเรื่องนี้ไม่ใช่แนวสยองขวัญโดยตรงเสียทีเดียว จะเขียนประวัติศาสตร์การเมืองอย่างไรล่ะ อาจารย์ก็เลยใส่ตัวตนของตัวเองผ่านการใช้สัญลักษณ์ ภาพมโน หรือลูกเล่นในเชิงเปรียบเปรยเข้าไปเสียเลย เป็นอะไรที่แหวกแนวสำหรับ อ.จุนจิ มากทีเดียว
Yokai Kyoushitsu (溶解教室)
ห้องเรียนหลอมละลาย เรื่องนี้เป็นผลงานการ์ตูนแนวสยองขวัญเรื่องสั้น ของอาจารย์ Ito Junji อีกเช่นกัน เรื่องนี้กล่าวถึงของคู่พี่น้องสองคน Azeri Yuma เด็กหนุ่มผู้ที่มักจะเอาแต่ขอโทษคนอื่นอยู่เสมอ แต่คำขอโทษของเขานั้นกลับเป็น คำสาป ที่จะทำให้ผู้ที่เขาขอโทษละลายกลายเป็น วุ้นมนุษย์ และ Azeri Chizumi น้องสาวของเขาที่เป็นคนที่ชื่นชอบการกินวุ้นมนุษย์ที่พี่ชายของเธอเป็นคนสาปคนมาให้แบบสุด ๆ เรื่องนี้ในบ้านเราได้รับการตีพิมพ์ฉบับลิขสิทธิ์โดยสำนักพิมพ์รักพิมพ์ครับ
Ma no Kakera (魔の断片)
เศษซากอสูร เรื่องสั้นจบในตอนแนวสยองขวัญ คล้าย ๆ กับเซ็ต คลังสยอง แต่รวมเรื่องสั้นเล่มนี้เป็นผลงานที่ อาจารย์ Ito Junji เคยบ่นว่าเซนส์การวาดการ์ตูนแนวสยองขวัญของตนเองเริ่มแย่ลง ผลงานที่รวมอยู่ในเล่มนี้เป็นเรื่องราวสยองขวัญที่น่าจะเรียกว่า แนวแปลก ๆ เสียมากกว่า เพราะมีเรื่องสั้นที่เข้าใจว่ามันเป็นแนวสยองขวัญ แต่กลับตลกได้อย่างน่าประหลาด ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวของบ้านผีสิง ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งอาศัยอยู่ วันดีคืนดี นางเกิด มีอารมณ์ทางเพศ กับบ้านของตัวเอง เลยไปสำเร็จความใคร่กับเสาบ้าน และบ้านก็ดันตอบรับออกมาด้วยการครางสวน… เป็นต้น
ผลงานชิ้นนี้ อ.จุนจิ ได้เขียนไว้ในเล่มว่า ตนเองรู้สึกว่าเซ้นส์ในการเขียนเรื่องสยองขวัญมันลดหายไปมาก สำหรับผลงานชิ้นนี้ ทางทีมงานก็ค่อนข้างเห็นด้วยว่า “มันไม่ค่อยสยองจริง ๆ แหละ” แต่ว่า สิ่งที่ อ.จุนจิ ยังมีอยู่เต็มเปี่ยมคือไอเดีย และฝีมือในการเล่าเรื่อง ดังนั้นใน เศษซากอสูร ก็ตามที่เขียนไว้ข้างต้นครับ ว่ามันค่อนไปทางเรื่องลึกลับปนสยองขวัญที่เล่าเรื่องหักมุมในแต่ละตอนได้สนุก
ผลงานของอาจารย์ Ito Junji ที่ได้กล่าวถึงข้างบนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่ควรค่าแก่การเก็บสะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับแฟนการ์ตูนแนวสยองขวัญ โดยเฉพาะเรื่อง Tomie
เรื่องราวของ Tomie นั้นเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวผู้หนึ่งซึ่งงดงามเป็นอย่างมาก งดงามเสียจนทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างอิจฉาจนอยากจะ ฆ่าให้ตาย และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับการฆ่าและทารุณกรรมมากมายจากเพื่อนร่วมชั้น ทว่า… ไม่ว่าจะฆ่าเธอไปสักกี่ครั้ง เธอก็จะฟื้นคืนกลับมาจากความตายได้ โดยจะฟื้นคืนกลับมาจาก ซากร่างกาย ที่ถูกฆ่าและทารุณกรรมไปแล้วนั่นเอง
ผลงาน Tomie นี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ฉายในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วหลายครั้ง และในบ้านเราเองก็เคยมีการนำเข้ามาฉายด้วยเช่นกันในชื่อ ผีหัวหลุด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนภาพยนตร์สยองขวัญบ้านเราในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นที่ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์คนแสดงอีกเช่น Spiral เป็นต้น หวังว่าผลงานของอาจารย์จะถูกดัดแปลงออกมาเป็นภาพยนตร์ให้แฟน ๆ ได้ชมกันอีกเรื่อย ๆ นะครับ
ผลงานล่าสุดของอาจารย์ Ito Junji นั้นเป็นมังงะที่ดัดแปลงมาจากผลงานของนักเขียนชื่อดัง Dasai Ozamu กับผลงานเรื่อง Ningen shikkaku หรือที่รู้จักกันในชื่อไทยคือ สูญสิ้นความเป็นคน มังงะเรื่องนี้ได้กล่าวถึงเรื่องราวของตัวละครที่ชื่อ Oba Yosou (大庭葉蔵) ซึ่งได้ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบสมุดบันทึกเรื่องราวในชีวิตของ Oba Yosou ผู้โดดเดี่ยวและได้หลงเข้าไปสู่วังวนแห่งอโคจรของชีวิต
ในซีซั่น Winter Anime 2018 ก็ได้มีการฉายอนิเมะที่ชื่อว่า Junji Ito Collection ซึ่งเป็นอนิเมะที่นำผลงานเรื่อง คลังสยอง ของ Ito Junji มาสร้างเป็นอนิเมะตอนสั้น ๆ คัดสรรค์มาแต่เรื่องเด็ด ๆ ทั้งนั้นให้เราได้ชมกัน ซึ่งอาจจะมีใครหลาย ๆ คนได้ชมกันไปบ้างแล้ว และถ้าหากได้ชมอนิเมะเรื่องนี้แล้วเกิดติดใจก็อย่าลืมลองไปหาต้นฉบับมาอ่านกันดูนะครับรับรองว่าได้อรรถรสไม่แพ้กันแน่นอน