ด้วยความหวังที่จะให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในหน้าประวัติศาสตร์ของอเมริกา นักร้องสาวคนดังจึงอยากให้มีการพูดคุยอย่างเปิดเผยเป็นการทั่วไป
จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีกระแสการลุกฮือขึ้นต่อต้านการกดขี่และการเหยียดเชื้อชาติในระบบสังคมของอเมริกาและทั่วโลกอย่างที่เราได้เห็นกัน สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว เหตุการณ์นี้อาจเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกสักนิด ถึงแม้ในประเทศญี่ปุ่นจะมีจำนวนประชากรที่เป็นชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่ข่าวสารเรื่องการเหยียดเชื้อชาติกลับไม่ค่อยปรากฎบนหน้าสื่อเท่าไรนัก จึงอาจทำให้เกิดปัญหารในการทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการประท้วงครั้งนี้ขึ้นมาได้
ซึ่งสำหรับศิลปินนักร้องชาวญี่ปุ่น-อเมริกัน อย่างคุณ Utada Hikaru แล้ว เธอได้ตระหนักถึงปัญหานี้ และพร้อมที่จะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการประท้วง และการมีอยู่ของปัญหาการเหยียดเชื้อชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อจุดประกายให้ชาวเน็ตญี่ปุ่นได้หันมาสนใจเรื่องนี้ และให้เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติ ในเรื่องดังกล่าว เธอจึงได้บอกเล่าความคิดเห็นของเธอลงในทวิตเตอร์ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเธอก็หวังว่าการเคลื่อนไหวทางสังคมครังนี้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนแปลงในหน้าประวัติศาสตร์
日本で生まれ育った日本人からすると人種差別っていまいちピンと来ないかもしれないけど、今アメリカで起きていることは未来の世界史に載るような歴史的な局面かもしれない…というかそうであってほしい
— 宇多田ヒカル (@utadahikaru) June 4, 2020
“การเหยียดเชื้อชาติอาจเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจได้ในทันทีสำหรับคนญี่ปุ่นที่เกิดและโตมาในญี่ปุ่น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอเมริกาตอนนี้อาจเป็นสิ่งที่จะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ในวันข้างหน้าก็เป็ฯได้ ซึ่งฉันหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้น”
นอกจากนี้ยังมีอีกทวิตหนึ่งตามมา เป็นการอธิบายถึงการเหยียดเชื้อชาติ ที่สามารถพบได้ในชีวิตประจำวันในอเมริกา
“การแบ่งแยกเชื้อชาติที่เกิดขึ้นกับคนดำที่เกิดขึ้นในอเมริกานั้น มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ๆ อย่างเช่นการเลือกปฏิบัติเพราะเชื้อชาติที่แตกต่างกัน แต่มันคือปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่ในการบริหารของรัฐบาลและภายในสังคม ฉันหวังว่าคนที่ไม่เคยศึกษาประวัติความเป็นมาของคนดำในอเมริกา รวมถึงปัญหาด้านความสัมพันธ์ในปัจจุบัน หรือเพียงแต่รู้เล็กน้อย จะได้ใช้โอกาสนี้ในการศึกษาให้มากขึ้น”
ทวิตดังกล่าวได้รับกระแสตอบรับอย่างดี มีผู้กดไลค์ถึง 215,000 ครั้ง และเข้ามาคอมเมนต์มากกว่า 36,000 ความเห็น เป็นการจุดประกายให้เกิดการถกเถียงหารือขึ้นในกลุ่มชาวเน็ตญี่ปุ่น ที่โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยมีโอกาสได้หันมาพูดถึงเรื่องการเหยียดเชื้อชาติและการเลือกปฏิบัติมากนัก แม้จะมีบางส่วนที่ขัดแย้งและไม่เห็นด้วยกับข้อความในโพสต้นทางนี้ แต่ก็มีหลายความเห็นที่บอกได้ว่าพวกเขาเหมือนได้รับการเปิดโลกด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และเห็นด้วยกับการออกมาพูดของศิลปินสาว
“พวกเขาคงระลึกได้ว่ามีประเด็นปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ …ทั้ง ๆ ที่ตอนโคโรนาไวรัสระบาดใหม่ ๆ ก็เพิ่งไปเหยียดชาวเอเชียมาเหมือนกัน”
“ฉันหวังว่าเราจะสร้างโลกที่ไม่มีการแบ่งสีกันได้”
“ไม่อินเรื่องเหยียดเชื้อชาตินะ แต่ไม่เคยรู้เลยว่ามันมีฝังรากลึกขนาดนี้”
“การเลือกปฏิบัติด้วยเรื่องเชื้อชาติ เป็นเรื่องน่าละอาย”
“การเลือกปฏิบัติด้วยเชื้อชาติก็กำลังกลายเป็นปัญหาในญี่ปุ่นอย่างช้า ๆ เหมือนกัน แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะหนักเท่าที่มีอยู่ใน U.S. ตอนนี้นะ อยากจะให้สังคมมองว่าเราทุกคนก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน”
“จริง กว่าจะรู้ว่ามันเป็นปัญหาหยั่งรากลึก ก็ต้องไปอาศัยอยู่ที่นั่นจริง ๆ”
บางคนก็แชร์วิดีโอจากผู้ประท้วง Black Lives Matter ซึ่งผู้ที่อยู่ในคลิปนั้นไม่ใช่ใคร คุณ John Boyega นักแสดงนำจากภาพยนตร์ Star Wars นี่เอง
大事なターニングポイントをアンティファが台無しにしてるけど、
軌道修正しようとしてる素晴らしい人たちがいることも知ってください。https://t.co/NsIyaKkeJI https://t.co/flh4KaUSdt— 桜丸 (@nEUL0jAwTQ0gqCZ) June 4, 2020
ในมุมกลับกัน บางคนก็ตอบกลับด้วยแนวคิดทำนองว่า “ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติในญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ชาวญี่ปุ่นหลายคนคิด และรู้สึกเช่นนั้น แม้จะมีภาพการเลือกปฏิบัติ หรือแม้แต่การเหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้นในกลุ่มชาวเอเชียที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น หรือแม้แต่กับชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ปรากฎให้เห็นอยู่เนือง ๆ ก็ตามที
“ฉันเป็นคนญี่ปุ่นที่เกิดและโตในญี่ปุ่น แต่ฉัมไม่เชื่อว่าประเทศนี้จะไม่มีการเหยียดเชื้อชาติอยู่จริง แม้แต่ตอนที่ฉันเป็นเด็กประถมอยู่ก็ตาม”
“ฉันเป็นคนญี่ปุ่นที่เกิดและโตในญี่ปุ่น ที่รู้สึกเสียใจเมื่อข่าวการเลือกปฏิบัติด้วยเชื้อชาติ มีให้เห็นบ่อยขึ้น”
“คุณ Hikaru บอกเลยว่าแรงกดดันในระดับประเทศอย่างนั้น กำลังเกิดขึ้นในญี่ปุ่นเช่นกัน”
“สามีฉันเป็นคนดำ เวลาอากาศหนาว เขามักจะเอามือซุกไว้ในกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง แต่กลับเคยถูกตำรวจเรียกค้นตัว เพื่อดูว่าในมือเขากำลังซุกซ่อนอะไรอยู่”
น่าสนใจที่มีชาวเน็ตญี่ปุ่นกลุ่มนึงที่มองว่าทั้งหมดนี้เป็นทฤษฎีสมคบคิด เช่นเดียวกับที่ชาวอเมริกันฝั่งขวาตกขอบมองผู้ประท้วง
“ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบพวกแอนติฟา (พวกซ้ายตกขอบ) เลยขอไม่รีทวีตข้อความนี้นะ”
“อ๋อ นี่คือกำลังสร้างความชอบธรรมให้กับพวกผู้ก่อการร้ายซ้ายจัดในอเมริกา ในการเอาเรื่องเหยียดเชื้อชาติมาเป็นโล่ปกป้องตัวเองเวลาออกปล้นคนอื่นใช่ไหม สุดยอด ต้องเอาขึ้นหน้าหนึ่งแล้วล่ะแบบนี้”
“ใครก็รู้ว่าทั้งหมดนี่มันเป็นแผนของพวกจีน ที่เสี้ยมให้อเมริกาตีกันด้วยเรื่องเหยียดเชื้อชาติ”
ยังมีอีกหลายความเห็นที่วิจารณ์คุณ Utada ว่าเหตุใดเธอจึงไม่เคยพูดถึงการผลักดันชาวอุยกูร์และชาวทิเบตออกนอกประเทศ หรือแม้แต่การไม่กล่าวถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน (ที่เพิ่งครบรอบไปเมื่อต้นเดือนนี้) พวกเขาเบนเป้าความสนใจไปที่ประเด็นการเหยียดเชื้อชาติอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีการร้องเรียนให้กลายเป็นที่สนใจเช่นกัน และมองว่าการเคลื่อนไหวของกรณี Black Lives Matter นั้น อาจจะแย่งสปอตไลท์ไปจากเหตุการณ์อื่น ๆ ในทำนองเดียวกัน อย่างไม่ได้ตั้งใจ
กระนั้น ทวิตนี้ของคุณ Utada ก็ทำให้การพูดคุยในประเด็นยาก ๆ อย่างเช่นเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นในสังคมญี่ปุ่นอย่างที่มันควรจะเป็น และเปิดเผยให้เห็นว่าการเหยียดเชื้อชาติ มีการเลือกปฏิบัติด้วยเชื้อชาติ ไม่ได้เป็นเอกสิทธิ์ให้เกิดขึ้นเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น แถมยังเป็นปัญหาที่มีมานานหลายชั่วอายุคน ซึ่งเราก็หวังว่าการหันมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ จะเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในทุกที่บนโลก ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
Source: Twitter/@utadahikaru via Hachima Kiko, SoraNews24