อาจเป็นการเสียมารยาทต่อผู้ปรุงอาหารไปบ้าง แต่การได้กินอะไรที่ตัวเองชอบ ก็เป็นหนึ่งในความสุขนะ
มีเรื่องเล่าว่าที่ประเทศฝรั่งเศสการใส่ซอสมะเขือเทศลงบนอาหารที่ทำการปรุงมาเรียบร้อยแล้วโดยผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นในร้านอาหาร หรืออาหารตามบ้านถือเป็นเรื่องเสียมารยาทเป็นอย่างมาก โดยเหตุผลก็คือในเมื่ออาหารเหล่านั้นถูกปรุงมาอย่างสุดความสามารถแล้ว นับเป็นเรื่องเสียมารยาทหากจะทำให้รสโดยกลบไปหมดด้วยรสของซอสมะเขือเทศ
ซึ่งในญี่ปุ่นเองแม้จะไม่ใช่ธรรมเนียมปฏิบัติจริงจังอะไร แต่สำหรับอาหารที่ได้รับการปรุงมาแล้วการลิ้มรสชาติตามที่ผู้ปรุงอยากนำเสนอให้กับผู้กินถือเป็นการให้เกียรติผู้ทำอาหาร แต่ถึงคุณจะปรุงอาหารซ้ำด้วยสารพัดเครื่องเทศก็ไม่มีใครมาห้าม หรือทำร้ายคุณได้
เว้นก็แต่ที่แห่งนี้….
ณ บ้านพักแห่งหนึ่งในย่านอุจิอุราตะ ของเมืองอิเสะ จังหวัดมิเอะ ได้เกิดเหตุทำร้ายร่างกายระหว่าง อารากาคิ เกนริว เจ้าของบ้านพักอายุ 46 ปี และแขกของบ้านพักอายุ 52 ปี โดยทางตำรวจได้บอกว่าในช่วงเดือนตุลาคมของปีก่อนผู้เคราะห์ร้ายได้มาที่บ้านพักแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ ตีนเขาใกล้ศาลเจ้าใหญ่อิเสะอันโด่งดัง และได้มารับประทานอาหารเย็น โดยเมื่ออาหารมาเสิร์ฟเขาได้โรยพริกไทยลงบนอาหารจานนั้น
แต่ดูเหมือนปริมาณพริกไทยที่ใส่ลงไปจะไปกระตุกต่อมของนายอารากาคิเข้า ทำให้เขาต่อยแขกรายนั้นเข้าไปที่ศีรษะเต็ม ๆ พร้อมกับถือมีดเข้าหาชายคนนั้นพร้อมกับตะโกนว่า “เอ็งตาย!” และในระหว่างความชลมุนที่เต็มไปด้วยการฟัน, แทง, ต่อย, เตะ มีดของนายอารากาคิก็ได้เฉือนเข้าไปที่นิ้วของแขก ซึ่งเกิดเป็นบาดแผลที่ต้องใช้เวลารักษาถึงสองสัปดาห์
บ้านพักที่เกิดเหตุนี้มีชื่อว่า Foolery Guesthouse
หลังจากถูกจับกุมนายอารากาคิยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุเพราะไม่พอใจในเกี่ยวกับปริมาณพริกไทยที่แขกโรยลงบนอาหาร แต่ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าปรับ โดยอ้างว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะฟันเข้าไปที่ผู้เคราะห์ร้าย โดยที่จริงแล้วชายทั้งสองคนรู้จักกันมาเป็นเวาลนานมากแล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่าการพูดขู่จะฆ่า และการถือมีดมาขู่แบบนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติในความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ยังไงซะค่าปรับจากการก่อเหตุก็จำเป็นที่จะต้องเกิดขึ้น
ชาวญี่ปุ่นที่ได้มาอ่านข่าวนี้ต่างก็แสดงความเห็นถึงความจู้จี้ของชายคนนี้ต่อการเลือกที่จะทานของลูกค้า
“ฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยปรุงรสอาหารเองเท่าไหร่ แต่ฉันคงไม่เลือกจะไปที่ไหนที่พยายามบอกว่าฉันจะต้องทานอาหารของฉันอย่างไร”
“ว้าวไม่น่าเชื่อว่าการโรยพริกไทยจะอันตรายขนาดนี้”
“ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าเขาโรยมันไปมากแค่ไหนถึงกับทำให้อีกฝ่ายทนไม่ได้เลย น่ากลัวชะมัด”
“บางคนเป็นพวกติดกินรสจัดมาก และต้องใช้เครื่องเทศเยอะ ๆ”
“ฉันขอโทษฉันชอบโรยพริกไทยบนราเม็งของฉัน อย่าฆ่าฉันเลย”
“ถ้าไม่อยากให้ปรุงรสขนาดนั้นทำไมถึงเอาเครื่องปรุงไปวางไว้บนโต๊ะล่ะ?”
“ไปตามตำรวจพริกไทยมาเยอะ ๆ เลย”
“มันเป็นเมนูแบบไหนกัน? ฉันอยากไปลองดูเองจังว่าเมนูแบบไหนที่ทำให้พวกเขาหยิ่งได้แบบนั้น…”
หน้าเว็บไซต์ของ Foolery Guesthouse หรืออีกชื่อคือ Guesthouse Gukyoan ไม่ได้มีการลงเมนูอาหารไว้เท่าไรนักนอกไปเสียจากเมนูอาหารเช้าอย่างข้าวกับไข่ดิบ และซุปมิโซะราคา 500 เยน แต่จากรายงานได้มีการระบุว่าเหตุเกิดในช่วงเวลามื้ออาหารเย็น
และเมื่อลองไปตรวจสอบให้ดีก็พบว่าบ้านพักแห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงที่ดีไม่ว่าจะด้วยทำเลที่ตั้ง และคะแนนรีวิวในเว็บไซต์ Google และ Booking.com แม้จะมีแขกบางส่วนไม่ค่อยชอบความเรียบง่ายของมัน แต่ก็มีแขกที่เคยมาพักให้คำชมในเรื่องของราคา, ไวไฟฟรี, คลาสทำสมาธิ และเจ้าของบ้านพักที่มีนิสัยเป็นกันเอง และพูดอังกฤษได้ชัดเจน แต่นั่นก็ยังไม่แน่นอนว่าเป็นคุณอารากาคิจริง ๆ หรือเป็นพนักงานที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าของ กันแน่
Source: Tokai TV, Hachima Kiko, Booking.com, Foolery Guesthouse